ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังแบงค์ชาติแคนาดาลดดอกเบี้ย

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 5, 2008 07:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราเมื่อคืนนี้ (4 มี.ค.) ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลหลักๆ โดยร่วงลงเกือบแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางแคนาดาประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% แตะระดับ 3.5% พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจต้องลดดอกเบี้ยลงอีกเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงแตะระดับ 1.0042 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0074 ดอลลาร์แคนาดา/ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลงแตะระดับ 0.7976 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.8063 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
สกุลเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 1.5208 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5192 ดอลลาร์/ยูโร ขณะที่สกุลเงินปอนด์ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 1.9859 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9847 ดอลลาร์/ปอนด์
เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางแคนาดาตัดสินใจประกาศลดอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.5% ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2544 เป็นต้นมา พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนเม.ย. เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและเพื่อรับมือกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลง
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 0.9393 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9243 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นอีก 0.25% สู่ระดับ 7.25% เมื่อวานนี้
เกล็น สตีเฟ่นส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย กล่าวว่า "คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเพราะต้องการควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นแม้สหรัฐ แคนาดา และอังกฤษ ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศและลดผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกก็ตาม"
"เศรษฐกิจออสเตรเลียขยายตัวแข็งแกร่งมาตลอด 16 ปีเพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้อัตราว่างงานในประเทศลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2517 แต่ภาวะขาดแคลนแรงงานทำให้อัตราค่าแรงและค่าเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น" สตีเฟ่นส์กล่าว
ไมเคิล วูลฟอล์ค นักวิเคราะห์จากแบงค์ ออฟ นิวยอร์ก กล่าวว่า นักลงทุนกำลังจับตาดูการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปที่จะประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 18 มี.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ซึ่งจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิมที่ 8.25% อย่างไรก็ตาม คาดว่าธนาคารกลางจะยังคงมุ่งเน้นเรื่องการควบคุมเงินเฟ้อภายในประเทศที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ