นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งส่งเสริมให้ปี 2563 เป็นปีแห่งการลงทุนนั้น กระทรวงการคลังเตรียมจัดทำแพ็กเกจส่งเสริมการลงทุน เพื่อจูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก และการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ
ทั้งนี้ คาดว่าแพ็กเกจดังกล่าวจะแล้วเสร็จและพร้อมนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้เกิดเม็ดเงินลงทุนจากภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเมื่อมีการลงทุนเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่จะได้ตามมาคือการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น และช่วยให้เกิดการหมุนเวียนของการใช้จ่ายและการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้น
"เราได้ประชุมเตรียมการชุดมาตรการที่จะช่วยสนับสนุน และเร่งรัดการลงทุน เพราะปีนี้รัฐบาลประกาศแล้วว่าเป็นปีแห่งการลงทุน การลงทุนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะตามยุทธศาสตร์ชาติ เราต้องการปฏิรูป ปรับเปลี่ยนประเทศ ต้องมีการลงทุนเพื่ออนาคต และปีนี้เราต้องการให้มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่คึกคัก ในภาวะที่เศรษฐกิจภายนอกยังไม่ปกติ สิ่งที่เราควรเร่งทำคือการดูแลเศรษฐกิจภายใน ดังนั้น การลงทุนจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ" รมว.คลังกล่าว
พร้อมระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้ภาคเอกชนปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิต ปรับเปลี่ยนเครื่องจักร, การสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนของผู้ประกอบการ โดยจะทำให้เป็นชุดมาตรการที่ครบวงจรออกมา และเชื่อว่าจะเป็นมาตรการที่จูงใจมากกว่าที่ผ่านมา
"เชื่อว่าชุดมาตรการที่จะออกมานี้ จะมีความน่าจูงใจมากกว่าชุดมาตรการในครั้งก่อน ๆ...ความต้องการลงทุนของเอกชนในตอนนี้ยังมีอยู่ แน่นอนว่าบรรยากาศก็เป็นปัจจัยหนึ่ง แต่การที่เราจะมีชุดมาตรการพิเศษออกมา ก็จะยิ่งเป็นสิ่งจูงใจมากขึ้นให้เขาลงทุน" นายอุตตม กล่าว