ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.37 แข็งค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อย นลท.คลายกังวลภาวะเศรษฐกิจหลังตัวเลขส่งออกของไทยออกมาดีกว่าคาด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 22, 2020 17:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.37 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.39 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.36-30.42 บาท/ดอลลาร์

"ถึงแม้จะมีแรงขายของนักลงทุนที่มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า แต่ตัวเลขส่งออกนั้น ออกมาดีกว่าคาด ทำให้คลายกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ในระดับหนึ่ง" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 30.30 - 30.45 บาท/ดอลลาร์ โดยนักลง ทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า และคืนนี้จะมีการประกาศยอดขายรถยนต์มือสองของสหรัฐ

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 109.96 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 109.95 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1091 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าอยู่ที่ระดับ 1.1082 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,574.59 จุด ลดลง 0.35 จุด, -0.02% มูลค่าการซื้อขาย 72,912.96 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 91.05 ล้านบาท (SET+MAI)
  • สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยใน
เดือน ธ.ค. 62 โดยการส่งออกมีมูลค่า 19,154 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ยังคงหดตัว -1.28% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ใกล้
เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวราว -1.25% ถึง -1.50% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่าคิดเป็นมูลค่า 18,558.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ กลับ
มาขยายตัว 2.54% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 595.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ส่วนทั้งปี 62 การส่งออกมีมูลค่า 246,244.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว -2.65% เมื่อเทียบกับปี 61 ขณะที่การนำเข้ามี มูลค่า 236,639.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว -4.66% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 9,604.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

สำหรับแนวโน้มการส่งออกปี 63 หากแต่ละเดือนส่งออกได้มูลค่าเกิน 20,000 ล้านเหรียญฯ จะทำให้ส่งออกทั้งปีขยายตัว 1.5-2% แต่ถ้าได้ถึง 21,278 ล้านเหรียญฯ จะขยายตัวได้ถึง 3%

  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือน ธ.ค.62
อยู่ที่ระดับ 91.7 ปรับตัวลดลงจาก 92.3 ในเดือน พ.ย.62 เนื่องจากมีปัจจัยเสี่ยงจากความกังวลต่อกำลังซื้อภายในประเทศ ปัญหาภัย
แล้งที่มีความรุนแรงทำให้กระทบต่อผลผลิตและรายได้ของภาคเกษตร สะท้อนจากคำสั่งซื้อและยอดขายของสินค้าที่ลดลงทั้งจากสินค้าคงทน
และไม่คงทน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการส่งออกยังคงได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทต่อเนื่อง ตลอดจนความผันผวนของ
เศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออกของไทยอีกเช่นกัน
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบ
กระแสเงินสดในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.-ธ.ค.62) รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังจำนวน 646,219 ล้านบาท ขณะที่มี
การเบิกจ่ายเงินงบประมาณทั้งสิ้น 810,084 ล้านบาท รัฐบาลได้กู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุล จำนวน 26,314 ล้านบาท ส่งผลให้เงินคง
คลัง ณ สิ้นเดือน ธ.ค.62 มีจำนวนทั้งสิ้น 316,370 ล้านบาท
  • ส.ส.รัฐบาลและฝ่ายค้าน เข้าร่วมลงชื่อยื่นเรื่องต่อประธานรัฐสภาเพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยกระบวนการพิจารณา
ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เนื่องจากมีการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์แสดงตนและลงมติทั้งที่ไม่ได้อยู่ใน
ห้องประชุม
  • รมว.คลัง กล่าวถึงการเตรียมการรับมือหากการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ2563 ล่าช้า
ออกไปว่า ต้องรอดูว่ากระบวนการทางสภาฯจะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ ซึ่งยังไม่ทราบต้องใช้เวลาอีกกี่เดือน หรือต้องส่งให้ศาลรัฐ
ธรรมนูญพิจารณาหรือไม่ แต่ได้มอบหมายให้หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงการคลัง พิจารณาแนวทางเลือกต่างๆไว้ และเตรียมเสนอให้
รัฐบาลพิจารณา และหารือกับทางสำนักงบประมาณไว้ด้วย โดยยอมรับว่า การออกพ.ร.ก.กู้เงิน ถือเป็นทางเลือกหนึ่งในการนำไปพิจารณา
ด้วย แต่ยืนยันว่า เรื่องงบประมาณที่ล่าช้าจะไม่กระทบต่อแผนการลงทุน และไม่กระทบต่อเงินเดือนข้าราชการ
  • นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสชาวอเมริกันเชื่อ เศรษฐกิจจีนมีความพร้อมสำหรับการเติบโตในอนาคต เนื่องจากจีนมีความคืบหน้า
ในการปฏิรูปและการเปิดเสรีในระดับที่เหมาะสม

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ