นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.05/06 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้า ที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 31.05-31.22 บาท/ดอลลาร์
"เงินบาทค่อนข้างสวนทางภูมิภาค น่าจะมาจาก Flow จากตลาดบอนด์ระยะยาว..โดยคาดว่าตลาดอาจจะเริ่มคลายความ กังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสลงบ้าง"นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทจะอยู่ระหว่าง 31.00 - 31.20 บาท/ดอลลาร์
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คาดว่า กนง.จะประเมินจากปัจจัยสถานการณ์ต่างๆ ที่มีผล ต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 108.50/53 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 108.51 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1068/1069 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1082 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,496.06 จุด ลดลง 18.08 จุด, -1.19% มูลค่าการซื้อขาย 53,178.96 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 255.17 ลบ.(SET+MAI)
- รมว.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้พิจารณามาตรการกระตุ้น
การท่องเที่ยว หลังจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในช่วงที่ผ่านมา โดยจะเป็นการสนับสนุนทั้งด้าน
อุปสงค์และอุปทาน เช่น ให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรม สถานที่ มาหักลดหย่อนภาษีได้ และมีสินเชื่ออัตรา
ดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินให้กู้เพื่อปรับปรุงกิจการเพิ่มเติมด้วย โดยรายละเอียดขอให้รอผ่านการพิจารณาของ ครม. ก่อนจึงจะมีการ
เปิดเผยต่อไป รวมทั้งการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า มาตรการ "ชิมช้อปใช้" ได้สิ้นสุด
ลงเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2563 โดยตั้งแต่เริ่มมาตรการในวันที่ 27 กันยายน 2562 มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ 11,802,073 คน จากจำนวนผู้ได้
รับสิทธิเข้าร่วมมาตรการ 14,354,159 คน ซึ่งมียอดการใช้จ่ายรวม 28,820 ล้านบาท
- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) คาดว่าการส่งออกไทยปี 63 จะกลับมาขยายตัว เนื่องจาก
การส่งออกล่าสุดเดือน ธ.ค. 62 หดตัว 1.3% แต่หากหักน้ำมันและทองคำจะขยายตัวที่ 1.2% ถือเป็นสัญญาณดีว่าการส่งออกไทยเริ่มฟื้นตัว
และมีทิศทางที่ดีขึ้น
- เจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จะส่งผล
กระทบเพียงชั่วคราวต่อเศรษฐกิจจีน ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่รองรับการขยายตัวในระยะยาวนั้น ยังคงดีอยู่
- เจ้าหน้าที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) เปิดเผยว่า กระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาลกลางจีนได้ออกนโยบาย
สนับสนุนหรือแบ่งปันงบประมาณให้กับรัฐบาลท้องถิ่นและบุคลากร เพื่อรับมือกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ภาคธุรกิจการค้าระหว่างประเทศในจีนจะกลับมาดำเนินกิจการเร็ว ๆ นี้ ในขณะที่ทางการ
ก็เร่งปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และลดภาระให้กับภาคธุรกิจเหล่านี้