ดอลล์อ่อนค่าต่อเนื่องที่ตลาดโตเกียวเช้านี้ จากกระแสวิตกปัญหาสินเชื่อ

ข่าวต่างประเทศ Friday March 7, 2008 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้าวันนี้ (7 มี.ค.) จากกระแสความกังวลระลอกใหม่ในตลาดสินเชื่อและอัตราการยึดบ้านหลุดจำนองที่ปรับตัวสูงขึ้นในสหรัฐ จนส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและร่วงลงต่ำสุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับเงินเยน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังต่างชะลอการทำธุรกรรม carry trade ซึ่งเป็นการกู้ยืมเงินสกุลที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำเช่นเงินเยนไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.33 น. ตามเวลาในประเทศไทย เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวที่ระดับ 102.74 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับ 102.61-102.71 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ 1.5379 ดอลลาร์ต่อยูโรจากระดับ 1.5375-1.5385 ดอลลาร์ต่อยูโร
นายทากาชิ คูโด ผอ.เอ็นทีที สมาร์ทเทรดกล่าวว่า "แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่านักลงทุนชะลอการทำธุรกรรม carry trade สกุลเงินเยนหลังจากที่เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อช่วงที่ผ่านมา แต่ตลาดก็ยังคงมีปฎิกิริยาต่อสัญญาณบ่งชี้ใหม่ๆที่ทำให้นักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อการปล่อยกู้ให้ลูกหนี้กลุ่มซับไพรม์และปัญหาในตลาดสินเชื่อจนส่งผลให้มีการเข้าซื้อเงินเยนกันอย่างหนาแน่น"
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา บริษัทธอร์นเบิร์ก มอร์ทเกจ และบริษัทคาร์ลิล กรุ๊ป ซึ่งเป็นกองทุนพันธบัตร เปิดเผยตัวเลขขาดทุนในตลาดกู้จำนอง
ขณะที่สมาคมธนาคารปล่อยกู้จำนองแห่งสหรัฐระบุว่า อัตราการยึดบ้านหลุดจำนองในสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสที่สี่ ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)กล่าวว่า ชาวสหรัฐมียอดหนี้กู้เงินจำนองบ้านเพิ่มขึ้นเกินระดับสมดุลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ธนาคารกลางเริ่มบันทึกข้อมูลตัวเลขดังกล่าวในปี 2488
จากปัจจัยข้างต้นทำให้เกิดความวิตกกังวลต่อตลาดสินเชื่อระลอกใหม่จนส่งผลให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.5395 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่เงินดอลลารือ่อนค่าลงต่ำสุดที่ 102.46 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าลงต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.2548 ที่อ่อนค่าลงไปแตะที่ 102.35 เยนต่อดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานของสหรัฐในเดือนก.พ. เพื่อดูว่าวิกฤตสินเชื่อจะยังคงยืดเยื้อยาวนานมากแค่ไหน และดูว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาได้ส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานหรือไม่
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์จากโพลล์ของทอมสัน ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือนก.พ.จะเพิ่มขึ้น 25,000 ตำแหน่ง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ