คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ได้ปรับลดการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลง ประกอบกับราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น กำลังส่งผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเอกชน "เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังขยายตัวปานกลาง แต่ในอัตราที่ค่อนข้างช้า ส่วนใหญ่เป็นเพราะการลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัวลง และราคาพลังงานและวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกำไรของบริษัทเอกชน" บีโอเจกล่าวในแถลงการณ์ประจำเดือนมี.ค. "ผลกำไรภาคเอกชนยังคงอยู่ในระดับสูง แต่อัตราการเติบโตกำลังชะลอลง ขณะที่ปริมาณการผลิตทรงตัวในระยะนี้ ทั้งนี้ แถลงการณ์ดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับเนื้อหาในรายงานเดือนก่อน โดยในครั้งนั้น บีโอเจระบุว่า ผลกำไรภาคเอกชนโดยทั่วไปอยู่ในระดับสูง และปริมาณการผลิตยังคงเพิ่มสูงขึ้น สำหรับรายงานการประเมินเศรษฐกิจประจำเดือนก.พ.นั้น บีโอเจประเมินว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวในระดับปานกลาง และส่วนใหญ่เป็นเพราะอัตราการลงทุนในตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวลดลง การเปิดเผยรายงานการประเมินเศรษฐกิจครั้งล่าสุดมีขึ้นหลังจากบีโอเจประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยประเภทระยะสั้นเท่าเดิมที่ 0.50% ในการประชุมนโยบายวันนี้ โดยคณะกรรมการบีโอเจได้นำข้อมูลหลายด้านมาประกอบการพิจารณา ซึ่งรวมถึง วิกฤตการณ์ในตลาดปล่อยกู้จำนองของสหรัฐและภาวะผันผวนในตลาดสินเชื่อทั่วโลก ขณะเดียวกันคณะกรรมการบีโอเจยังรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงและมีแนวโน้มที่จะถดถอยลง ซึ่งสถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐด้วย นอกจากนี้ การตัดสินใจตรึงอัตราดอกเบี้ยของบีโอเจยังคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยและผลผลิตอุตสาหกรรมอ่อนแอลง แม้บีโอเจเคยประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวปานกลางก็ตาม การประชุมครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่นายโตชิฮิโกะ ฟูกูอิ ทำหน้าที่ผู้ว่าการบีโอเจ โดยเขาจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 19 มี.ค. สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน