นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 31.17 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวัน ศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์
"เช้านี้เปิดมาใกล้เคียงกับท้ายตลาดเมื่อวันศุกร์ วันนี้ให้กรอบ 31.10-31.25 บาท/ดอลลาร์ จับตาข้อมูลเศรษฐกิจใน ประเทศ คือ GDP ไตรมาส 4/62 ซึ่งคาดว่าจะโต 2.1% ซึ่งยังไม่รวมปัจจัยไวรัสที่คาดว่าน่าจะส่งผลกระทบขต่อเศรษฐกิจในไตรมาส 1/2563 เพราะฉะนั้นอาจจะต้องจับตาตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในไตรมาส 1/63 ว่าจะเป็นอย่างไร"นักบริหารเงิน กล่าว
ส่วนสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ยังต้องติดตามต่อไป
THAI BAHT FIX 3M (14 ก.พ.) อยู่ที่ระดับ 0.89217% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.85497%
SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 31.1600 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.82 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ (14 ก.พ.) ที่ปิดตลาดที่ระดับ 109.81 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0837 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ (14 ก.พ.) ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.0844 ดอลลาร์/ยูโร
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1580 บาท/ดอลลาร์
- ติดตามการแถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 4/2562 ทั้งปี 2562 และแนวโน้มปี 2563 ของ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในวันนี้
- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสำหรับสัปดาห์นี้ (17-21 ก.พ.) ที่ 31.00-31.50 บาทต่อ
ดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ประกอบด้วย ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของไทย และสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-
19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจกิจกรรมภาคการผลิตของเฟดนิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มภาคธุรกิจของเฟดสา
ขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ (เบื้องต้น) ในเดือนก.พ. ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดขายบ้านมือ
สอง ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนม.ค. ตลอดจนบันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ม.ค. นอกจากนี้ ตลาด
อาจรอติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/62 ของญี่ปุ่นด้วยเช่นกัน
- คลังแจงสี่เบี้ยยังมีงบกลางปีอีก 100,000 ล้านบาท ช่วยพยุงเศรษฐกิจหลังเจอปัจจัยลบปั่นป่วน "ไวรัสโควิด-ภัยแล้ง-งบ
ปี 63 ล่าช้า" แย้มงบประมาณปี 63 เบิกจ่ายได้อย่างช้าเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่ สบน.เตรียมแนวทางกู้เงินเพิ่มเติมหากมีการลงทุนเพิ่ม
- กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า คณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) และองค์การทรัพย์สินทางปัญญา
โลก (ไวโป) รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ดับบลิวทีโอ ได้เผยแพร่รายงานติดตามสภาวะการค้าของดับบลิวทีโอ โดยระบุว่าการค้าโลกทวี
ความตึงเครียดมากขึ้น เพราะในรอบ 1 ปี หรือตั้งแต่เดือน ต.ค.61-ต.ค.62 สมาชิกดับบลิวทีโอใช้มาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างกัน
มากขึ้น ครอบคลุมมูลค่าการค้าราว 750,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดนับตั้งแต่ปี 55 และเพิ่มขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มี
มูลค่า 588,300 ล้านเหรียญ สร้างความไม่แน่นอนต่อการค้าระหว่างประเทศ ทำให้ปีนี้การค้าโลกจะขยายตัวเพียง 2.7% จากเดิมคาด
ขยายตัว 3%
- กสทช. จัดงานประมูลคลื่นความถี่ 5G ทำรายได้ให้รัฐรวม 100,521 ล้านบาท จาก 3 คลื่นความถี่ 700 MHz 2600
MHzและ 26 GHz โดยประมูลออกทั้งหมด 48 ใบอนุญาต จากทั้งหมด 49 ใบอนุญาต หลังจากนี้ กสทช.จะนำผลการประมูลเข้าประชุม
บอร์ด เพื่อรับรองผลภายในวันที่ 19 ก.พ.นี้ เพื่อให้โอเปอเรเตอร์เริ่มลงทุนในช่วงต้นเดือน มี.ค.
- กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์รายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส
4/2562 ขยายตัว 1% ซึ่งดีกว่าตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ระบุว่าขยายตัวเพียง 0.8%
- สำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2562 หดตัวลง
6.3% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการหดตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2557 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวราว 3.7%
- คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงวันนี้ว่า ณ วันอาทิตย์ที่ 16 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิด
จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ในจีน เพิ่มขึ้นอีก 105 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มขึ้น
เป็น 1,770 ราย
- นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19 หลังนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ที่ได้รับการสำรวจคาด
ว่า เศรษฐกิจจีนจะขยายตัวในอัตราต่ำสุดในไตรมาส 1/2563 แต่เชื่อว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจะเป็นไปในระยะสั้น หากจีนสามารถควบ
คุมการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้
- จีนให้คำมั่นว่า จะใช้มาตรการกระตุ้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่หรือโค
วิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ
- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนม.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.3% สอดคล้องกับตัว
เลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
- ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 100.9 ในเดือนก.พ. สูง
กว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 99.5 หลังจากแตะระดับ 99.8 ในเดือนม.ค.
- ตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดีสหรัฐ