ลี ซอง-แต ผู้ว่าการธนาคารกลางเกาหลีใต้ออกมาแสดงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ด้านราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ซึ่งอาจสร้างความผิดหวังให้กับผู้ที่คาดว่าธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ หลังจากที่ได้ประกาศตรึงดอกเบี้ยในระดับเดิมที่ 5.0% เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายลีเห็นว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะเผชิญความเสี่ยงในช่วงขาลงมากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้ธนาคารคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ระดับ 4.7% ในปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ประมาณการในปี 2550 ที่ 4.9% นอกจากนี้เขายังแสดงความกังวลต่อราคาสินค้าที่พุ่งขึ้นด้วยเช่นกัน โดยกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้ออาจพุ่งสูงขึ้นเหนือระดับที่ธนาคารคาดการณ์ไว้ "ถึงแม้จะมีความเป็นไปได้ว่า ราคาสินค้าจะเริ่มมีเสถียรภาพในอีกไม่ช้าจากการที่รัฐบาลยกเลิกนโยบายปรับลดภาษีที่เกี่ยวกับน้ำมันและเลื่อนการจัดเก็บค่าธรรมเนียมบริการออกไป รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาได้อีกทางหนึ่ง แต่ราคาน้ำมันและธัญพืชยังคงทะยานขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งผมคาดว่าอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวในระดับสูงจะยังคงกินเวลานานต่อเนื่องอีก 2-3 เดือน" นอกจากนี้ ผู้ว่าฯแบงค์ชาติเกาหลีใต้กล่าวด้วยว่า จากปัจจัยดังกล่าวได้ส่งผลให้เงินวอนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ในขณะที่สกุลเงินอื่นๆในภูมิภาคเอเชียต่างพากันแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสหรัฐจากกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก "ขณะนี้ยังไม่ถึงเวลาเหมาะสมที่จะแสดงความคิดเห็นต่ออัตราแลกเปลี่ยน แต่ผมเชื่อว่ามีปัจจัยบางอย่างที่ส่งผลให้เกิดการอ่อนค่าลงของเงินวอนซึ่งผมเองก็ยังไม่มั่นใจว่าปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้จะยังคงอยู่ต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังหรือไม่" นายลีกล่าว