รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์แจ้งว่า สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ทำหนังสือถึงกระทรวงพาณิชย์ให้เสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่าจะรับรองกฎหมายที่ยังค้างอยู่ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ฉบับใดบ้าง โดยต้องเสนอภายใน 60 วันนับจากแถลงนโยบาย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้แจ้งว่าร่างแก้ไข พ.ร.บ.ธุรกิจคนต่างด้าว ควรยกร่างใหม่ เพราะกฎหมายนี้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สมัยรัฐบาลที่แล้วมีการแก้ไขแตกต่างไปจากร่างรัฐบาลที่เสนอไปในตอนแรกมาก ส่วน พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง กรมการค้าภายในจะเสนอให้นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ตัดสินใจว่า จะเดินหน้าร่างกฎหมายเดิมต่อหรือไม่ หากเดินหน้าต่อต้องเสนอให้ ครม.รับรองกฎหมายที่คั่งค้างจาก สนช.ชุดที่แล้วภายใน 60 วัน พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จะขอเวลาทบทวนและศึกษารายละเอียดร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ของรัฐบาลชุดที่แล้วก่อนตัดสินใจว่าจะเดินหน้าผลักดันต่อไปหรือไม่ เพราะต้องการให้จูงใจการลงทุนจากต่างชาติ พร้อมทั้งปกป้องผู้ประกอบการภายในประเทศที่ยังอ่อนแอ "หากมีการผลักดันต่อก็ต้องศึกษาเปรียบเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น เวียดนาม ซึ่งขณะนี้มีนักลงทุนต่างชาติสนใจเข้าไปลงทุนเป็นจำนวนมาก โดยดูว่ากฎหมายของเวียดนามดูแลการลงทุนอย่างไร ส่วนการตรวจสอบบริษัทไทยที่ถือหุ้นแทนคนต่างด้าว(นอมินี) ยังจะต้องยึดกติกาเดิม และให้ดำเนินการต่อไป" รมช.พาณิชย์ กล่าว พ.ต.ท.บรรยิน กล่าวว่า หากผลักดันต่ออาจต้องปรับรายละเอียดให้ดีกว่าเดิมทุกๆ ด้าน ทั้งนิยามคนต่างด้าวและบัญชีแนบท้าย เพื่อให้ไม่เป็นอุปสรรคกีดขวางการลงทุนจากต่างประเทศ และปกป้องธุรกิจที่ไทยยังไม่มีความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งจะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการอำนวยความสะดวกต่อการลงทุน เช่นเดียวกับการยกเลิกมาตรการสำรอง 30% ด้านนายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวว่า จะเสนอรายละเอียดของการแก้ไขกฎหมายต่างด้าวให้ พ.ต.ท.บรรยิน รับทราบ เพื่อขอทราบนโยบายว่าจะผลักดันต่อหรือไม่ ซึ่งคงไม่ทันระยะเวลาที่ต้องรับรองกฎหมายที่ยังคั่งค้างในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ชุดที่แล้วภายใน 60 วัน โดยส่วนตัวเห็นว่าหากมีการผลักดันจริงก็ควรเริ่มต้นใหม่ เพราะร่างรัฐบาลที่เสนอไปถูกปรับปรุงแก้ไขไปมาก โดยเพิ่มเกณฑ์ควบคุมกิจการลงไปในคำนิยามของคนต่างด้าว จากเดิมที่เสนอเพิ่มแค่สิทธิ์ในการออกเสียง เข้าไปดูควบคู่กับสัดส่วนการถือหุ้น "หากรัฐบาลไม่ผลักดันต่อ กรมฯมีแนวทางรองรับในการดูแลธุรกิจคนต่างด้าวแล้ว ทั้งเรื่องการตรวจสอบนอมินีแบบเข้มข้น และการปรับปรุงบัญชีแนบท้าย 3 เพื่อให้การขออนุญาตคล่องตัวมากขึ้น โดยได้ให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศึกษาว่า ควรเปิดเสรีธุรกิจในบัญชีแนบท้าย 3 ทั้ง 22 ธุรกิจหรือไม่ คาดว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้น่าจะได้ข้อสรุปใน 17 ธุรกิจก่อน เช่น ก่อสร้าง, โรงแรม, สำนักงานตัวแทนภูมิภาค" นายคณิสสร กล่าว