รมว.คลัง คาดเศรษฐกิจไทยฟื้น มิ.ย.-ก.ค.หากไวรัส COVID-19 คลี่คลาย ลั่นพร้อมใช้งบปี 63 ทันที่พ.ร.บ.มีผล

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 20, 2020 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.คลัง คาดเศรษฐกิจไทยฟื้น มิ.ย.-ก.ค.หากไวรัส COVID-19 คลี่คลาย ลั่นพร้อมใช้งบปี 63 ทันที่พ.ร.บ.มีผล

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในระยะต่อไปเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก โดยยังต้องติดตามเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความไม่แน่นอน ไวรัสโควิด-19 คาดหวังว่าจะหยุดการแพร่ระบาดได้ในอนาคต และส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวได้ในช่วงมิ.ย.-ก.ค.63 ซึ่งในช่วงนี้จะต้องดูแลไม่ให้เศรษฐกิจถูกกระทบมากเกินไป และสิ่งที่สำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ การเตรียมความพร้อมหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะมีผลต่อความสามารถในการกลับมาฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยได้

รมว.คลัง ระบุว่า หลังจากได้พบนักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบันในประเทศในช่วงเช้าวันนี้ มีประเด็นที่นักวิเคราะห์และนักลงทุนสถาบันในประเทศกังวลมากที่สุด คือ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบันที่กระทบต่อการท่องเที่ยวในประเทศ รวมทั้งปัญหาภัยแล้ง ซึ่งภายหลังจากที่กระทรวงมหาดไทยประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งออกมาแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลมีแผนจะออกมาตรการชุดใหญ่เพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภคในประเทศ จึงมองว่าหากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เริ่มลดลงและกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กฌ็คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.63

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังเห็นว่าการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำให้มีผลกระทบมาถึงเศรษฐกิจไทยด้วย หลังจากนี้ก็จะมีการออกมาตรการที่เหมาะสมเพื่อกระตุ้นการอุปโภคและบริโภค และสร้างความมั่นใจของนักลงทุนให้ฟื้นกลับมา ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อไปได้ รวมทั้งยังมีมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตรที่จะออกมาเพิ่มเติมอีก เพื่อช่วยเกษตรกรจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งทั้ง 2 มาตรการ เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้เร่งเดินหน้าช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน

"นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำว่าจะต้องเร่งดูแลผลกระทบในระยะสั้น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าไปได้ ขณะที่ระยะยาว ยืนยันว่าจะเดินหน้าแผนยุทธศาสตร์ และการปฏิรูปประเทศไปควบคู่กันอย่างแน่นอน" นายอุตตม กล่าว

สำหรับแนวทางการบริหารงบประมาณปี 63 ได้มอบหมายให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมการเบิกจ่ายทันทีหลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 มีผลบังคับใช้ โดยมีวงเงินรายจ่ายอยู่ที่ 3.2 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุน 6.4 แสนล้านบาท ซึ่งจะสามารถอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ระบบมากกว่า 4 แสนล้านบาทภายในไตรมาส 2/63 เนื่องจากเป็นโครงการที่เตรียมพร้อมแล้ว 3.5 แสนล้านบาท และทำ TOR แล้วอีก 9.6 หมื่นล้านบาท ส่วนอีก 2.4 แสนล้านบาทอยู่ระหว่างการทำ TOR คาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการ 45-50 วัน เพื่อให้เม็ดเงินลงสู่ระบบได้ในช่วงไตรมาส 2/63 ถึงไตรมาส 3/63 โดยยืนยันว่ารัฐบาลจะเร่งขับเคลื่อนการลงทุนให้ได้มากที่สุด

รมว.คลัง กล่าวถึงการเบิกจ่ายงบประจำว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างหามาตรการเร่งรัด โดยเบื้องต้นจะกระตุ้นส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐจัดสัมมนาในประเทศตามที่มีแผนงานไว้อยู่แล้ว ส่วนด้านภัยแล้งที่ดำเนินการมาตรการต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาอยู่แล้วนั้นหากมีการประกาศพื้นที่ก็จะสามารถขับเคลื่อนงบประมาณได้ทันที

ทั้งนี้ สำนักงบประมาณเชื่อว่างบประมาณปี 63 จะสามารถเบิกจ่ายได้มากกว่า 80% ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้จะมีเวลาการเบิกจ่ายจำกัดเพียง 6 เดือนในปีงบประมาณนี้ โดยไตรมาส 3/63 คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ถึง 77% ของงบประมาณทั้งหมด ด้านการลงทุนรัฐวิสาหกิจทั้งปีอยู่ที่ 3.5 แสนล้านบาท ภายในเดือน มี.ค.นี้คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนราว 1 แสนล้านบาท และทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า 80%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ