ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนของญี่ปุ่นที่ตลาดปริวรรตเงินตราเช้าวันนี้(10 มี.ค.) เนื่องจากยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนที่พุ่งขึ้นเหนือคาดการณ์ได้ช่วยคลายความหวั่นวิตกต่อความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจของญี่ปุ่น ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐในเดือนก.พ.ดิ่งลง 63,000 ตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ณ เวลา 07.47 น.ตามเวลาในประเทศไทย เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะที่ 102.38 เยนต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับ 102.63-102.73 เยนต่อดอลลาร์ที่ตลาดนิวยอร์กคืนวานนี้ ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นแตะระดับ 1.5378 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับ 1.5350-1.5360 ดอลลาร์ต่อยูโร รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรภาคเอกชนของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 19.6% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปี 2543 และอยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ธอมสัน/ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% จอห์น นูนาน นักวิเคราะห์จากธอมสัน/ไอเอฟอาร์ มาร์เก็ตส์กล่าวว่า "กิจกรรมภาคธุรกิจในเอเชียขยายตัวสดใส ทำให้เทรดเดอร์เทขายเงินดอลลาร์อยู่บ้าง เนื่องจากนักลงทุนยังไม่ต้องการเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ซึ่งเป็นเพราะข่าวความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจในแง่ลบจากสหรัฐและภาคการเงินทั่วโลก" "วิกฤตสินเชื่อกำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอีกครั้งและได้ตอกย้ำถึงความวิตกกังวลว่าสถาบันการเงินจะยังคงเผชิญแรงกดดันและมีแนวโน้มที่จะเผชิญความเสี่ยง ซึ่งภาวะเช่นนี้จะเป็นปัจจัยหนุนสกุลเงินที่แข็งแกร่งเช่นเงินเยนและฟรังสวิส" อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)กล่าวว่า ธนาคารจะเพิ่มวงเงินประมูลของธนาคารแต่ละแห่งทั้งสิ้น 5.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในวันที่ 10 และ 24 มี.ค.นี้ พร้อมทั้งจะเริ่มเดินหน้าอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารด้วยการซื้อคืนพันธบัตรในวงเงิน 1 แสนล้านดอลลาร์เพื่อผ่อนคลายแรงกดดันด้านสภาพคล่องในตลาดการเงิน ด้านไดสุเกะ อูโนะ นักวิเคราะห์จากซูมิโตโมะ มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปกล่าวว่า "ตลาดหุ้นได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยิ่งซบเซาลงอีก ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้มีแรงเทขายเงินดอลลาร์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน" "หากทางการสหรัฐยังไม่ยอมเข้าแทรกแซงการซื้อขายในตลาดด้วยการใช้นโยบายที่เด็ดขาด เงินดอลลาร์อาจร่วงลงแตะที่ระดับ 100 ดอลลาร์ต่อเยนได้"