พาณิชย์ เร่งกระจายหน้ากากอนามัยล้านชิ้นผ่านร้านค้าปลีกทั่วประเทศภายในสัปดาห์นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday February 27, 2020 16:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้เร่งระดมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์เพื่อช่วยบรรจุหน้ากากอนามัยใส่ถุง ถุงละ 4 ชิ้น ชิ้นละ 2.50 บาท ราคาถุงละ 10 บาท เพื่อนำไปกระจายให้ถึงมือประชาชนทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงระบาดของไวรัสโควิด-19 ให้ได้มากที่สุด และได้เพิ่มการกระจายผ่านร้านสะดวกซื้อ 7-eleven, มินิ บิ๊กซี, โลตัส เอ็กซ์เพรส รวมแล้วกว่า 10,000 สาขาทั่วประเทศ จากที่ก่อนหน้านี้ ได้เปิดจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์ทุกวันทำการตั้งแต่เวลา 09.30 -16.30 น. หรือจนกว่าหน้ากากอนามัยที่นำมาขายในแต่ละวันจะหมด และกระจายผ่านร้านธงฟ้าในจังหวัดต่างๆ ประมาณ 1,198 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่ายขึ้น

"ตั้งเป้าว่าสัปดาห์นี้ จะเร่งกระจายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางที่ว่ามาให้ได้ 1 ล้านชิ้น ตอนนี้กำลังเร่งบรรจุ ระดมคนจากทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์เข้ามาช่วย เพราะกรมฯ ต้องการให้ประชาชนหาซื้อหน้ากากอนามัยได้ง่าย และไม่แพง โดยให้สังเกตที่หน้าถุงจะมีการแสตมป์ตราของร้านธงฟ้า ขายถุงละ 10 บาท ในถุงมี 4 ชิ้น และจำกัดการซื้อคนละ 1 ถุง หรือเพียง 4 ชิ้นเท่านั้น เพื่อให้ทุกคนหาซื้อได้" อธิบดีกรมการค้าภายใน

สำหรับการจัดหาหน้ากากอนามัยขณะนี้มีแนวโน้มดีขึ้นมาก หลังจากที่มาตรการทางกฎหมายได้บังคับใช้ ทั้งการกำหนดให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายแจ้งสต็อกที่มีในครอบครอง ห้ามส่งออก และขอปันส่วนจากผู้ผลิตมาไว้ที่ศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัย ของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อกระจายต่อให้หน่วยงานที่มีความจำเป็นต้องใช้ก่อน และประชาชน ทำให้ปัจจุบันในระบบมีผู้แจ้งสต็อกเข้ามารวม 30 ล้านชิ้น และมีหน้ากากอนามัยส่งเข้ามายังศูนย์บริหารจัดการหน้ากากอนามัยวันละประมาณ 500,000 ชิ้น ซึ่งได้จัดสรรให้กับองค์การเภสัชกรรม เพื่อกระจายต่อให้กับโรงพยาบาล 3.8 ล้านชิ้น, ร้านธงฟ้า 1.4 ล้านชิ้น, บมจ. การบินไทย (THAI) 280,000 ชิ้น, สมาคมร้านขายยา 200,000 ชิ้น

"คาดว่าทั้งเดือนก.พ.63 จะกระจายได้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านชิ้น ส่วนเดือนมี.ค.63 จะมีหน้ากากอนามัยเข้ามายังศูนย์ฯ ไม่น้อยกว่า 15 ล้านชิ้น" นายวิชัย ระบุ

ส่วนการดำเนินการกับผู้ที่ฉวยโอกาสค้ากำไรเกินควรนั้น ล่าสุดสามารถจับกุมแล้ว 48 ราย แบ่งเป็นในส่วนกลาง 39 ราย และต่างจังหวัด 9 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 30 ราย ได้ส่งดำเนินคดีความผิดตามมาตรา 29 พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาค้ากำไรเกินควร มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งสายตรวจวันละ 10 สาย ออกตรวจสอบตามสถานที่ที่มีการร้องเรียน และการเข้าไปตรวจสอบเองทุกวัน ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนในต่างจังหวัดจะมีพาณิชย์จังหวัดเป็นผู้ตรวจสอบ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ