ธ.ก.ส.ชี้ปัญหาภัยแล้ง-ไวรัสอู่ฮั่นส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรในเดือน มี.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 28, 2020 12:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส.คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรในช่วงเดือน มี.ค.63 ที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกเหนียว น้ำตาลทรายดิบ ยางพาราแผ่นดิบ และปาล์มน้ำมัน ส่วนข้าวเปลือกเจ้า ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง สุกร และกุ้งขาวแวนนาไม มีแนวโน้มปรับตัวลดลง

โดยข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 13,796-13,930 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 0.04-1.02% จากเดือนก่อน ซึ่งเป็นผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ทำให้เกิดความต้องการข้าวหอมมะลิมากขึ้นเพื่อสำรองไว้บริโภคในประเทศฮ่องกง, ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 14,699-14,717 บาท/ตัน เพิ่มขึ้น 0.31-0.43% จากเดือนก่อน เนื่องจากปัญหาภัยแล้งอาจส่งผลให้ผลผลิตข้าวเหนียวนาปรังลดลง,

น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 15.63-15.71 เซนต์/ปอนด์ (10.92-10.98 บาท/กก.) เพิ่มขึ้น 1.50-2.00% จากเดือนก่อน เนื่องจากความกังวลผลผลิตน้ำตาลโลกปรับตัวลดลงจากภาวะภัยแล้งของประเทศไทย ซึ่งคาดว่าผลผลิตน้ำตาลปี 2562/63 ของไทยอาจลดลงเหลือ 30% หรือประมาณ 10 ล้านตัน (จากปีการผลิตก่อน 14.52 ล้านตัน) ขณะที่ผลผลิตอ้อยคาดว่าจะลดลงต่ำกว่า 90 ล้านตัน (จากปีการผลิตก่อน 130 ล้านตัน) เป็นผลมาจากความแห้งแล้งที่รุนแรงและต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี 2562

ยางพาราแผ่นดิบ ราคาอยู่ที่ 40.03-40.35 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 5.23-6.06% จากเดือนก่อน เนื่องจากราคาซื้อขายยางพาราในตลาดซื้อขายล่วงหน้าโตเกียว (TOCOM) เพิ่มขึ้น เพราะสต็อกยางพาราของประเทศญี่ปุ่นปรับตัวลดลง 3.55% และประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูกาลปิดกรีดยางพาราในช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. ทำให้ปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดลดลง

และปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 5.40-5.50 บาท/กก. เพิ่มขึ้น0.37-2.23% จากเดือนก่อน เนื่องจากความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันในประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันดีเซล B10 ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากนโยบายของกระทรวงพลังงานที่กำหนดให้ราคาจำหน่ายต่ำกว่าน้ำมันดีเซล B7

ส่วนสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 7,898-8,031 บาท/ตัน ลดลง 0.13-1.81% จากเดือนก่อน เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปรังของประเทศไทยเริ่มออกสู่ตลาด ประกอบกับผลผลิตข้าวช่วงฤดูหนาวของประเทศเวียดนามออกสู่ตลาดมากขึ้นในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย.63 ถึง 48% ของปริมาณการผลิตข้าวเวียดนามทั้งหมด,

ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.55-7.62 บาท/กก. ลดลง 1.00-2.00% จากเดือนก่อน เนื่องจากปริมาณผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกในฤดูแล้ง (มี.ค.-เม.ย.) และผลกระทบจากภัยแล้งที่ยังคงส่งผลให้คุณภาพข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลดลง มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.88-1.93 บาท/กก. ลดลง 0.52-3.09% จากเดือนก่อน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังออกสู่ตลาดต่อเนื่อง

ขณะที่การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังลดลง โดยเฉพาะการส่งออกไปจีนที่ได้รับผลกระทบระยะสั้นจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 , สุกร ราคาอยู่ที่ 67.00-71.00 บาท/กก. ลดลง 0.60-6.2% จากเดือนก่อน เนื่องจากคาดว่าภาวะการค้าภายในประเทศจะชะลอตัวลง จากผลกระทบการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรปรับลดลงตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง และกุ้งขาวแวนนาไม ขนาด 70 ตัว/กก. ราคาอยู่ที่ 135.00-141.00 บาท/กก. ลดลง 0.71-4.93% จากเดือนก่อน เนื่องจากความต้องการในประเทศยังชะลอตัวจากปัญหาไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยวซบเซา และผลผลิตกุ้งของภาคใต้เริ่มออกสู่ตลาด ส่งผลให้ราคากุ้งมีแนวโน้มลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ