ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุในรายงาน"แนวโน้มภาวะสินเชื่อของสถาบันการเงิน"ว่า ในไตรมาส 1/51 ความต้องการสินเชื่อทั้งภาคธุรกิจและครัวเรือนมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 4/50 ในทุกประเภทสินเชื่อ ส่วนหนึ่งคาดว่าเป็นผลจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและนักลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น ภายหลังสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น จากการสำรวจภาวะและแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน พบว่า ความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจโดยรวมยังสูงขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาส 4/50 เช่นเดียวกับแนวโน้มความต้องการสินเชื่อของภาคครัวเรือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความต้องการสินเชื่อครัวเรือนอื่นๆ อย่างไรก็ดี มาตรฐานการให้สินเชื่อแก่ภาคธุรกิจโดยรวมยังคงมีแนวโน้มจะเข้มงวดขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมาตรฐานการปล่อยสินเชื่อระยะยาวและสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ โดยสถาบันการเงินแสดงความกังวลใจเกี่ยวกับแนวโน้มคุณภาพของสินเชื่อมากขึ้น โดยเฉพาะในบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่เน้นผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก และสินเชื่อครัวเรือนประเภทอื่นๆ ย้อนไปในช่วงไตรมาส 4/50 ความต้องการสินเชื่อโดยรวมปรับตัวดีขึ้น โดยความต้องการสินเชื่อของภาคธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยในสินเชื่อทุกประเภท ส่วนภาคครัวเรือนนั้นความต้องการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นค่อนข้างมาก แม้ว่าจะได้รับปัจจัยลบจากแนวโน้มในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงซบเซา ขณะที่ความต้องการสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อครัวเรือนอื่นๆ ชะลอลง เป็นผลมาจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ยังไม่ฟื้นตัวมากนัก รวมทั้งความกังวลใจเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางการเมืองใปนระเทศในช่วงที่ผ่านมา สำหรับเหตุผลในการขอสินเชื่อของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการบริโภคสินค้าทั่วไปและสินค้าคงทน โดยทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ผ่อนคลายลงมีผลบ้างต่อความต้องการสินเชื่อทั้งภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้ อนึ่ง ธปท.ได้เริ่มทำแบบสำรวจภาวะและแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อครั้งแรกในเดือนมกราคม 2551 โดยขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ไทย สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ จำนวน 25 แห่ง ซึ่งครอบคลุมสินเชื่อมากกว่าร้อยละ 90 ของสินเชื่อทั้งระบบ