ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 31.43/46 แนวโน้มแข็งค่า ตลาดคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า มองกรอบ 31.30-31.50

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 10, 2020 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.43/46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.58 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทมีโอกาสจะแข็งค่าได้ต่อ ทั้งนี้ตลาดได้ price in ไปแล้ว ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตรา ดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบวันที่ 17-18 มี.ค.นี้

"บาทมีโอกาสย่อลงต่อ ตอนนี้ตลาด price in ไปแล้วว่าเฟดคงจะลดดอกเบี้ย" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.30-31.50 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (9 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.55840% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.66959%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.20/44 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 102.41 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1400/1420 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1397 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.5130 บาท/ดอลลาร์
  • ครม.ถกวันนี้ เคาะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น 2 เดือน รับมือโควิด "พลังงาน" อัดแพ็คเกจ 4.5 หมื่นล้านฟื้น
เศรษฐกิจฐานราก คืนค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า ตรึงค่าไฟ 3 เดือน "แรงงาน" ชงงดส่งประกันสังคม "คลัง" เสนอแผนฟื้นตลาดทุน เพิ่มลด
หย่อน "เอสเอสเอฟ" เป็น 4 แสนบาท -
  • อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือนก.พ.63 ว่า ผลจากการระบาดของ
ไวรัสโควิด-19 ปัญหาภัยแล้ง บางส่วนมีปัญหาซ้อนเช่น ปัญหาหนี้สินของประชาชน ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยหรือ TCC-CI ยัง
คงลดลงต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบ 27 เดือน หรือ 9 ไตรมาส อยู่ที่ระดับ 44.9 ลดลงจากเดือนม.ค.63 ซึ่งอยู่ระดับ 45.4 ดัชนี TCC-
CI ปัจจุบันและอนาคต 6 เดือนข้างหน้าลดลงจากเดือน ม.ค.63 เช่นกัน โดยอยู่ที่ระดับ 42.8 และ 47.0 ตามลำดับ เนื่องจาก
สถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลง โดยสาเหตุหลักมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้ภาคท่องเที่ยว ภาคบริการหดตัวลง ประชาชนออก
มาจับจ่ายใช้สอยน้อยลง ส่งผลตลาดในประเทศและตลาดโลกหดตัวลงจากความต้องการที่ลดลง
  • กสทช.จะหารือร่วมกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงแนวทางการปล่อยสินเชื่อให้
กับผู้มีรายได้น้อย โดยใช้บิลค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบรายเดือนและเติมเงิน แทนรายงานการเดินบัญชี (สเตตเมนต์) ประกอบการ
พิจารณาอนุมัติสินเชื่อ เพื่อแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้เป็นหนี้ในระบบอย่างถูกต้อง อีกทั้งกระตุ้นให้ผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ชำระค่าบริการตรง
เวลา
  • โควิด-19 ทำพิษ ผู้โดยสาร 6 สนามบิน ทอท.ลดฮวบ สุวรรณภูมิจากวันละ 2 แสนคน เหลือ 9 หมื่นคน คาดทั้งปีผู้
โดยสารหดไม่ต่ำกว่า 10% รายได้หายมากกว่า 10% พ่วงกระทบ ทอท. เลื่อนเปิดอาคารแซทเทิลไลท์สนามบินสุวรรณภูมิ จาก พ.ย.ปีนี้
เป็น เม.ย.ปีหน้า
  • ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ยังตั้งเป้าหมายสถานการณ์คนไทยเที่ยวกันเองภายใน
ประเทศไว้เหมือนเดิม คือเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 167 ล้านคนครั้ง เป็น 172 ล้านคน ครั้ง หรือเพิ่มขึ้น 4% โดยรายได้จะเพิ่มจากปีที่ผ่าน
มาอีก ประมาณ 1-2 แสนล้านบาท ซึ่งปี 62 มีรายได้ไทยเที่ยวไทย 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งขณะนี้คนไทยปรับเปลี่ยนการท่องเที่ยวในระยะ
ทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร เดินทางโดยรถตู้ เช่น พัทยา กาญจนบุรี หัวหิน และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น ซึ่งพื้นที่เหล่านี้อัตราการเข้าพัก
ของโรงแรมอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐเปิดเผยว่า เขาจะใช้มาตรการครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลด
ภาษีเงินเดือน (payroll tax) โดยคณะบริหารของเขาจะเรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายปรับลดภาษีเงินเดือน และ
มาตรการเร่งด่วนด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นเงินเยนและฟรังก์สวิส ในการซื้อขายที่
ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทรุดตัวของราคาน้ำมันได้ส่งผลให้นักลงทุนแห่ถือ
ครองสินทรัพย์ปลอดภัย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจาก
ตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติดิ่งลงหนักสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19
และราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างหนัก

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ย.จากสหพันธ์ธุรกิจ อิสระแห่งชาติสหรัฐ (NFIB), ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

  • นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากถึง 1.00% ในการประชุมสัปดาห์หน้า เพื่อ

ลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลง

ทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 17-18 มี.ค. แม้ว่าเฟดเพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉิน 0.50% ไป

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ