กกพ.มีมติตรึงค่า Ft ช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 63 ที่ -11.60 สต./หน่วย บรรเทาผลกระทบศก.จากวิกฤติโควิด-19

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 12, 2020 13:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กก พ. เปิดเผยว่า คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ให้คงอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร(ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บเดือนพ.ค.– ส. ค.63 จำนวน -11.60 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.64 บาทต่อหน่วย ต่อไปอีก 4 เดือน (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดย มีเป้าหมายเพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพของประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด- 19 คาดว่าจะใช้เงินประมาณ 5,120 ล้านบาทในการบริหารจัดการเพื่อตรึงค่าเอฟที

"กกพ. ได้ประเมินสถานการณ์ผลกระทบโดยรวมของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโดย รวมทั้งในและต่างประเทศชะลอตัว โดยที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลายโดยเร็ว ดังนั้นเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน จากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ จึงยังคงดำเนินการการบริหารจัดการเพื่อตรึงค่าเอฟทีต่อเนื่องอีก 4 เดือน" นายคมกฤช กล่าว

อย่างไรก็ตาม การประมาณการค่าเอฟทีต้องนำภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดจากส่วนต่างค่าเอฟทีประมาณการกับค่าเอฟทีที่เกิดขึ้นจริง มาพิจารณาเพิ่มเติมด้วย ซึ่งในครั้งนี้ภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นดังกล่าวมาจากการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่มีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้น จากประมาณการไว้

ทั้งนี้ เงินในการบริหารจัดการเอฟทีในงวด พ.ค. – ส.ค. 63 จำนวน 5,120 ล้านบาท นำมาจากการกำกับฐานะการเงิน ของการไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ กกพ. กำหนด

สำหรับปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที ในงวด พ.ค. – ส.ค. 63 ในรายละเอียด ประกอบด้วย

1. ความต้องการพลังงานไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 63 เท่ากับ 69,920 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน ม.ค. – เม.ย. 63 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 65,724 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 6.38% ตามความต้องการใช้ไฟฟ้า ที่เพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน

2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน พ.ค. – ส.ค. 63 ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก 58.34% ถ่านหิน 16.32% และการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 16.20 %

3. แนวโน้มราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า คาดว่าราคาก๊าซธรรมชาติเท่ากับ 263.19 บาทต่อล้านบีทียู ปรับตัวลดลง จากงวดที่ผ่านมา 3.50 บาทต่อล้านบีทียู ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าเอกชน อยู่ที่ 2,488.19 บาทต่อตัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก งวดที่ผ่านมา 16.59 บาทต่อตัน

ประเภทเชื้อเพลิง 	             หน่วย	  ม.ค. – เม.ย. 63        พ.ค. – ส.ค. 63        เปลี่ยนแปลง
                                        (ประมาณการ)             (ประมาณการ)          [2]-[1]
                                          [1]                    [2]
- ราคาก๊าซธรรมชาติ ทุกแหล่ง*   บาท/ล้านบีทียู	    266.69	            263.19	          -3.50
- ราคาน้ำมันเตา FO 3.5%S	     บาท/ลิตร	     18.54	             18.29	          -0.25
- ราคาน้ำมันดีเซล	             บาท/ลิตร	     22.53	             22.66	          +0.13
- ราคาลิกไนต์ (กฟผ.)	     บาท/ตัน	     693.00	            693.00	           0.00
- ราคาถ่านหินนำเข้าเฉลี่ย (IPPs) บาท/ตัน	   2,471.60	          2,488.19	         +16.59
หมายเหตุ: *ราคาก๊าซฯ รวมค่าผ่านท่อและค่าดำเนินการของโรงไฟฟ้า กฟผ. และโรงไฟฟ้าเอกชน

4. อัตราแลกเปลี่ยน เท่ากับ 31.70 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่ากว่าช่วงที่ประมาณการในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2563 ซึ่งใช้อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยเดือนกันยายน 2562 ที่ 30.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม สำนักงาน กกพ. ดำเนินการรับฟังความคิดเห็นค่า Ft สำหรับการเรียกเก็บประจำเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2563 ทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 12-26 มีนาคม 2563 ก่อนที่จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

นายคมกฤช กล่าวว่า สำหรับภาวะการณ์ในระยะ 4 เดือนที่เริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ซึ่งคาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มสูงขึ้น สำหรับการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าดังกล่าวยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งคาดว่าราคาเชื้อเพลิงในช่วงนี้มี แนวโน้มลดลง อาทิ ราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลงตามภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ