ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 ปี หลังธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียร่วงลงอันเป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา
ผลการสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 1,200 คน ซึ่งจัดทำโดย เวสท์แพ็ค แบงค์กิง คอร์ป และสถาบันวิจัยเมลเบิร์น เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยลดลง 9.1% เหลือ 88.6 จุด ในเดือนมี.ค.เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. โดยพบว่าผู้ที่มีทัศนคติในแง่ลบมีมากกว่าผู้ที่มีทัศนคติในแง่บวก
การที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้ธนาคารกลางลดความกดดันในการปรับเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมอีกครั้ง หลังจากที่ปรับเพิ่มไปกว่า 12 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2545 ยิ่งไปกว่านั้น ดัชนีความเชื่อมั่นอาจลดลงอีก อันเป็นผลมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐส่อเค้าว่าจะเข้าสู่ภาวะถดถอย รวมถึงการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% จนแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
"การที่ธนาคารกลางออสเตรเลียขึ้นดอกเบี้ย รวมถึงการที่ผู้ปล่อยกู้ขึ้นดอกเบี้ยการกู้จำนอง ช่วยให้ธนาคารกลางลดความกดดันในการปรับเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมได้เป็นอย่างดี" บิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากเวสท์แพ็ค กล่าว
ทั้งนี้ ณ เวลา 12.14 น.ตามเวลาซิดนีย์ เงินดอลลาร์ออสเตรเลียซื้อขายอยู่ที่ระดับ 92.88 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย จากเดิมที่ระดับ 92.87 เซนต์สหรัฐต่อดอลลาร์ออสเตรเลีย ก่อนที่จะมีการเปิดเผยรายงานดังกล่าว ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแบบ 2 ปี ลดลง 0.05% เหลือ 6.36% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์:
[email protected]