ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.58 ระหว่างวันผันผวนตาม Fund Flow คาดพรุ่งนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.50-32.80

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 19, 2020 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 32.64 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันผันผวนตามกระแสเงินทุนต่างประเทศที่ไหลออกต่อเนื่อง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 32.45 - 32.75 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทค่อนข้างผันผวนเนื่องจากมี flow ไหลออกต่อเนื่อง เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจต่อค่าเงินในเอเซียซึ่งเป็นตลาดที่ต้อง พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวหลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.50 - 32.80 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 107.80/109.50 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 108.68 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0800/0950 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 1.0896 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,044.19 จุด ลดลง 3.96 จุด, -0.38% มูลค่าการซื้อขาย 61,601.05 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,128.87 ล้านบาท (SET+MAI)
  • กระทรวงสาธารณสุข เผยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 60 ราย กลุ่มสนามมวย-สถานบันเทิงยังเพิ่มต่อเนื่อง
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม เดือนก.พ.63 อยู่ที่
ระดับ 90.2 ปรับตัวลดลงจากระดับ 92.2 ในเดือนม.ค.63 และถือว่าค่าดัชนีฯ ต่ำสุดในรอบ 21 เดือน นับตั้งแต่ พ.ค.61
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ปรับลดเป้าการผลิตรถยนต์ปีนี้เป็น 1.9 ล้านคัน ลดลงจากเป้าหมายเดิม
1 แสนคัน ลดลง 5.65% จากปี 62 โดยปรับลดการผลิตเพื่อส่งออกลง 5 หมื่นคัน เหลือ 9.5 แสนคัน และลดการผลิตเพื่อจำหน่ายใน
ประเทศลง 5 หมื่นคัน เหลือ 9.5 แสนคัน
  • ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ในการประชุมสมาชิกสมาคมธนาคารไทยเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) ภายหลังจากการ
ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในช่วงเช้า ธนาคารสมาชิกพร้อมที่จะเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่ประสบปัญหาในการดำเนิน
ธุรกิจ รวมทั้งลูกค้ารายย่อย ตามมาตรการต่าง ๆ ที่ได้ประกาศออกไปแล้ว
  • หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ในสหรัฐของเจพี มอร์แกน เปิดเผยว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอาจจะหดตัวลง 14% ในไตรมาส
2/2563 ซึ่งนับเป็นหนึ่งในการคาดการณ์ที่เลวร้ายที่สุดสำหรับสหรัฐจากผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ ได้ลงนามบังคับใช้กฎหมายเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-
19 ซึ่งมีชื่อว่า "Families First Coronavirus Response Act" โดยครอบคลุมถึงการให้บริการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 กับ
ประชาชนสหรัฐโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย และการจ่ายเงินชดเชยให้กับลูกจ้างที่ลาป่วยจากการติดเชื้อ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศมาตรการเพิ่มเติม เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพตลาดการเงินสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบ
จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคณะผู้ว่าการของเฟดได้อนุมัติ
โครงการเงินกู้กองทุนรวมตลาดเงิน (Money Market Mutual Fund Liquidity Facility หรือ MMLF) เพื่อช่วยเหลือกองทุน
ตลาดเงินต่างๆ ในการรองรับความต้องการไถ่ถอนกองทุนของภาคครัวเรือนและนักลงทุน
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศมาตรการฉุกเฉินในวันนี้ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลวงเงิน 1.3 ล้านล้านเยน
(1.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว
  • องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) เปิดเผยรายงานล่าสุดระบุว่า ประชาชนทั่วโลกจะตกงานราว 5.3-24.7 ล้าน

ตำแหน่ง อันเนื่องมาจากวิกฤตเศรษฐกิจและแรงงานที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ซึ่งสูงกว่าใน

ช่วงที่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551-2552 ที่ทำให้มีคนตกงาน 22 ล้านตำแหน่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ