EXIM BANK คลอดสินเชื่อระยะยาวดอกเบี้ยต่ำฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมขยายเงื่อนไขลดภาระผู้ส่งออกสู้โควิด-19

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday March 31, 2020 13:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

EXIM BANK คลอดสินเชื่อระยะยาวดอกเบี้ยต่ำฟรีค่าธรรมเนียม พร้อมขยายเงื่อนไขลดภาระผู้ส่งออกสู้โควิด-19

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ออกมาตรการเอ็กซิมดอกเบี้ยต่ำช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เป็นสินเชื่อระยะยาว วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ 2% ต่อปีในปีที่ 1-2 ส่วนปีที่ 3-4 อยู่ที่ Prime Rate -1.25% และปีที่ 5-7 อยู่ที่ Prime Rate -0.25% (Prime Rate ณ 31 มี.ค.63 เท่ากับ 5.75%) ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 7 ปี ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) 2 ปีแรก และฟรีค่าธรรมเนียม Front-end Fee เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำไปใช้หมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ซึ่งได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากโควิด-19 ติดต่อขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 ธ.ค.63

นอกจากนี้ EXIM BANK ได้ขยายเงื่อนไขมาตรการ EXIM ลดภาระผู้ส่งออกไทยสู้ภัยไวรัสโคโรนาให้แก่ลูกค้า ประกอบด้วย

  • ด้านสินเชื่อ พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน เพื่อลดภาระลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อระยะยาวและระยะสั้นที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ได้ภายใน 31 ธ.ค.63
  • ด้านรับประกันการส่งออก ขยายระยะเวลาการชำระเงินที่ให้ความคุ้มครองสูงสุด 270 วัน แก่ผู้ส่งออกที่ถือกรมธรรม์ประกันการส่งออกของ EXIM BANK และส่งออกไปทุกประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก (World Health Organization : WHO) ลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ได้ภายใน 31 ก.ค.63

กรณีไม่เกิน 180 วัน ไม่ต้องชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม

กรณีมากกว่า 180 วัน แต่ไม่เกิน 270 วัน ชำระค่าเบี้ยประกันเพียง 50%

ทั้งนี้ ยังฟรีคุ้มครองการส่งออกสินค้าเน่าเสียง่ายกรณีผู้ซื้อในจีนไม่รับมอบสินค้า สูงสุด 50% ของมูลค่าใบกำกับสินค้า และลดระยะเวลาพิจารณาจ่ายค่าสินไหมทดแทนกรณีผู้ซื้อในจีนไม่รับมอบสินค้า

"การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทุกภาคส่วน EXIM BANK จึงติดตามสถานการณ์และออกมาตรการใหม่ ๆ รวมทั้งโปรแกรมสินเชื่อพิเศษต่าง ๆ เพื่อช่วยให้ลูกค้าและผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือกับสถานการณ์และประคับประคองธุรกิจให้ดำเนินไปได้ ลดผลกระทบต่อการจ้างงานและการผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคภายในและต่างประเทศ เพื่อเยียวยาภาคธุรกิจและลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันและระยะถัดไป" นายพิศิษฐ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ