(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 32.80 ตลาดไร้ปัจจัยใหม่ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ คืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 1, 2020 11:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.80 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ อยู่ที่ระดับ 32.83/85 บาท/ดอลลาร์

"เช้านี้เงินบาทแข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ โดยเมื่อคืนยังไม่มีปัจัยใหม่ๆ เข้าใจว่านักลงทุนคงจะรอดูสถานการณ์การแพร่ระบาด ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และผลของมาตรการที่ทั่วโลกนำออกมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ"นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับวันนี้ให้กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทระหว่าง 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้จะมีตัวเศรษฐกิจของ สหรัฐฯ ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค. จาก ADP น่าจะมีผลต่อทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าไม่น่าจะออกมาดี

THAI BAHT FIX 3M (31 มี.ค.) อยู่ที่ระดับ 1.22496% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 1.02511%

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 32.8450 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.66 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 108.47/48 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1018 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0988/0989 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6990 บาท/ดอลลาร์
  • ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ส่งออกไทยในปี 63 คาดว่า จะมี
มูลค่า 228,816 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากปีก่อน 7.1% หรือลดลง 17,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (557,728 ล้านบาท) ถือเป็นอัตราที่
ต่ำสุดรอบ 10 ปี
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย และดัชนีความเชื่อมั่นผู้
ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาสแรกปี 63 (ม.ค.-มี.ค.) ว่าจากการสำรวจความคิดเห็นผู้ประกอบการธุรกิจ 650 ราย พบว่า ดัชนีความ
เชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยู่ที่ 57 ต่ำกว่าไตรมาสที่ 4 ปี 62 ซึ่งดัชนีอยู่ที่ 88 ถือเป็นการลดลงต่ำที่สุดในรอบ 9 ปี
  • ครม.เห็นชอบทบทวนมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก ชุด 2 ตามที่กระทรวงการคลัง
เสนอแล้ว พร้อมกับขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิ เพิ่มจากเดิมเพียง 3 ล้านคน เป็น 9 ล้านคน เปิดกว้างให้ผู้ประกันตนได้รับสิทธิด้วย
เตรียมเงินงบประมาณสำรองก้อนโตจำนวน 4.5 หมื่นล้านบาท
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และธนาคารกลางญี่ปุ่น ร่วมลงนามในความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา
สกุลท้องถิ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เสถียรภาพระบบการเงินของทั้งสองประเทศ ภายใต้ความตกลงฉบับนี้ ธนาคาร
กลางทั้งสองประเทศพร้อมจะทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินสกุลท้องถิ่นระหว่างกัน เพื่อให้ธนาคารกลางสามารถเสริมสภาพคล่องเงินสกุลบาท
และเยนให้กับธนาคารพาณิชย์ของตนสำหรับใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ โดยมีวงเงินสูงสุด 240 พันล้านบาท หรือ 800 พันล้าน
เยน
  • กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ บสย.พร้อมดำเนิน
การค้ำประกันสินเชื่อกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ตามมาตรการของรัฐบาล ร่วมกับธนาคาร
ออมสิน ในโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 10,000 ล้านบาท ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ PGS
(Portfolio Guarantee Scheme) ระยะที่ 8
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่าเอ็กซิมแบงก์ ออกมาตรการเอ็กซิมดอกเบี้ย
ต่ำช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เป็นสินเชื่อระยะยาว วงเงินสูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ
2% ต่อปีในปีที่ 1-2 ส่วนปีที่ 3-4 อยู่ที่ Prime Rate -1.25% และปีที่ 5-7 อยู่ที่ Prime Rate-0.25%(Prime Rate ณ 31 มี.
ค.63 เท่ากับ 5.75%) ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 7 ปี ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน บสย. 2 ปีแรก และฟรีค่าธรรมเนียม Front-end
Fee เพื่อให้ผู้ประกอบการ นำไปใช้หมุนเวียนในกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออกซึ่งได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจาก COVID-19
ติดต่อขอรับบริการได้ตั้งแต่บัดนี้ถึง 30 ธ.ค.63
  • ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจ ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่
ระดับ 120.0 ในเดือนมี.ค. จากระดับ 132.6 ในเดือนก.พ. แต่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 110.0
  • ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 3.9% ในเดือนม.
ค. เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในเดือนธ.ค. ขณะที่ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น
3.1% ในเดือนม.ค. หลังจากเพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนธ.ค.
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.)
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศข้อตกลงซื้อคืนพันธบัตรสำหรับหน่วยงานด้านการเงินต่างชาติและระหว่างประเทศ (FIMA
Repo Facility) เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบการเงินทั่วโลก ท่ามกลางวิกฤตการณ์โควิด-19
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (31 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย
หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิตของจีนทะยานขึ้นแข็งแกร่งในเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐอยู่ในระดับที่ดีเกิน
คาด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากภาพรวมตลอดเดือนมี.ค.และตลอดไตรมาส 1/2563 สัญญาทองคำปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากความวิตก
กังวลเกี่ยวกับโควิด-19 เป็นปัจจัยหนุนคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย
  • โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐจะลดลง 9% ในไตรมาส 1 และทรุด
ตัว 34% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการดิ่งลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนมี.ค.จาก ADP,

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนมี.ค.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทาน

ของสหรัฐ (ISM), การใช้จ่ายภาคการก่อสร้างเดือนก.พ., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดุลการค้าเดือนก.พ., ดัชนี

ภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนมี.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.พ., ตัวเลขจ้างงานนอก

ภาคเกษตรเดือนมี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมี.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.จากสถาบัน

จัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ