ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 32.81 แกว่งแคบใกล้เคียงช่วงเช้า ไร้ปัจจัยใหม่ ตลาดรอติดตามรายงานการประชุมเฟดคืนนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday April 8, 2020 17:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.81 บาท/ดอลลาร์ จากเปิดตลาดเมื่อ เช้าอยู่ที่ระดับ 32.82 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.78-32.86 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามแรงซื้อแรงขายทั่วไป ยังต้องรอดูสถานการณ์โควิด-19 และมาตรการภาครัฐว่าจะมี อะไรเพิ่มเติมหรือไม่" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.70-32.90 บาท/ดอลลาร์ ช่วงนี้น่าจะย่ำฐาน อยู่รอปัจจัยใหม่ คืนนี้มีการเปิดเผยรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินบาทวันพรุ่งนี้

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 108.82 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 108.59 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.0861 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0872 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,205.77 จุด ลดลง 9.18 จุด, -0.76% มูลค่าการซื้อขาย 92,816.33 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 7,895.05 ล้านบาท (SET+MAI)
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เผยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดวันนี้พบผู้ป่วยยืนยันติด
เชื้อรายใหม่เพิ่มอีก 111 ราย ผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย ส่งผลให้ยอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อสะสมรวม 2,369 ราย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 30
ราย รักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 888 ราย
  • คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) คาดว่า การส่งออกในปีนี้จะหดตัว -5 ถึง -10% โดยได้รับผลกระทบ
ด้านการส่งออกไปสหรัฐ ขณะที่ตลาดจีนยังฟื้นตัวลำบาก และแม้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลง 7-8% แต่ไม่ส่งผลต่อยอดสั่งซื้อ ประกอบกับเกิด
สถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลต่อราคาและผลผลิตทางการเกษตร ส่วนอัตราเงินเฟ้อ -1.5%

สำหรับตัวเลขประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้นั้น นายสุพันธ์ คาดว่า GDP ติดลบแน่นอน แต่ ยังไม่มีการพิจารณาปรับในเดือนนี้ เพื่อรอประเมินผลกระทบจากมาตรการต่างๆ ที่มีมติครม.ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะพิจารณาปรับ GDP ในเดือนหน้า

  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) นัดพิเศษ วันที่
20 มี.ค.63 ซึ่งคณะกรรมการฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.00% เป็น 0.75% ต่อปี เพื่อลด
ภาระดอกเบี้ยของลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ บรรเทาปัญหาสภาพคล่องในตลาดการเงิน และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะ
ช่วยสนับสนุนมาตรการการคลังของรัฐบาล ที่ได้ดำเนินการแล้วและจะดำเนินการเพิ่มเติม
  • ธนาคารกรุงไทยร่วมมาตรการเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือ SME ของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ซึ่งเป็นไปตามร่างพระราชกำหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมฯ โดยประกาศพักชำระหนี้เงินต้น-
ดอกเบี้ย 6 เดือน ให้กับลูกค้าธุรกิจที่มีวงเงินกู้ไม่เกิน 100 ล้านบาท เพื่อรับมือกับรายจ่ายที่จำเป็นของธุรกิจ เริ่มมีผลเดือนเมษายน-
กันยายน 2563

นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนสินเชื่อใหม่ (Soft Loan) เพื่อเสริมสภาพคล่องให้กลุ่มลูกค้าที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 20% ของยอดหนี้คงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2562 อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี โดยธนาคารไม่คิดดอกเบี้ยใน ช่วง 6 เดือนแรก เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้

  • สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ เผยเดือน มี.ค.จัดเก็บเงินนำส่งรายได้แผ่นดินจากรัฐวิสาหกิจ และกิจการที่
กระทรวงการคลังถือหุ้นต่ำกว่า 50% (กิจการฯ) จำนวน 4,307 ล้านบาท ส่งผลให้มีเงินนำส่งรายได้แผ่นดินสะสมจากรัฐวิสาหกิจและ
กิจการฯ ในช่วง 6 เดือนแรก (1 ต.ค.62 - 31 มี.ค.63) จำนวน 101,173 ล้านบาท คิดเป็น 101% ของประมาณการเงินนำส่งราย
ได้แผ่นดินสะสม หรือคิดเป็น 54% ของเป้าหมายทั้งปีงบประมาณ 2563 จำนวน 188,800 ล้านบาท
  • สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เผยผู้โดยสารระหว่างประเทศในไตรมาสที่ 1/2563 มีจำนวน
15.67 ล้านคน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา 8.54 ล้านคน หรือลดลง 35.3%
  • อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐไม่น่าจะฟื้นตัวได้เร็วหลังถูกกระทบจากการแพร่ระบาดของ
ไวรัสโควิด-19
  • นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้โพสต์ข้อความวิดีโอทางเฟซบุ๊ก เรียกร้องให้ทุกประเทศร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อต่อสู้กับการ
แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
  • ประธานาธิบดีเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้จะเพิ่มเม็ดเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 56 ล้านล้าน
วอน หรือ 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรับมือกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • รมว.คลังของฟิลิปปินส์เปิดเผยในวันนี้ว่า รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กันเงินงบประมาณไว้เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโค

วิด-19 จนถึงสิ้นเดือนพ.ค. และมีงบสำรองอีกมากที่จะใช้จ่ายเพิ่มขึ้น หากจำเป็น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ