กรมการประกันภัยชงปปง.เพิ่มฐานความผิดการทุจริตผู้บริหารบริษัทประกัน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 18, 2007 18:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

         กรมการประกันภัย เสนอสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)เพิ่มฐานความผิดการทุจริตของบริษัทประกันวินาศภัย และบริษัทประกันชีวิตให้เป็นหนึ่งในความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน เพื่อให้เอาผิดผู้บริหารที่ฉ้อโกงถึงขั้นยึดทรัพย์ ซึ่งล่าสุดปปง.ได้เห็นชอบแล้ว และอยู่ระหว่างการแก้ไขเพิ่มเติมฐานความผิดในกฎหมายฟอกเงิน
นางจันทรา บูรณฤกษ์ อธิบดีกรมการประกันภัย กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าบริษัทประกันภัยมักจะนำเงินจากการขายกรมธรรม์ไปใช้ผิดประเภทหรือไม่มีการส่งเงินเข้าบริษัท ซึ่งกรณีของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย จำกัดที่ถูกสั่งปิดกิจการชั่วคราวมีปัญหาเพราะการบริหารจัดการภายใน และเงินค่าเบี้ยประกันไม่เข้าบริษัท ทั้งๆ ที่มีกรมธรรม์มากเกือบ 1 ล้านฉบับ และมีส่วนแบ่งตลาดด้านการประกันภัยรถยนต์เป็นอันดับ 4 ของประกันวินาศภัยในประเทศ จึงต้องพิจารณาว่าผู้บริหารทุจริต หรือฉ้อโกงประชาชนหรือไม่ อย่างไร
"เมื่อปปง.บรรจุความผิดไว้ในกฎหมายฟอกเงิน และมีผลบังคับใช้แล้ว จากนี้ไปหากพบว่าบริษัทประกันรายใดมีพฤติกรรมฉ้อโกงประชาชน หรือเอาเงินเบี้ยประกันไปใช้ในทางทุจริต หรือไม่นำส่งเข้าบริษัทจริง ผู้บริหารจะถูกยึดทรัพย์ ซึ่งจะเป็นแนวทางหนึ่งที่ป้องกันการฉ้อโกงจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนได้ ส่วนกรณีสัมพันธ์ประกันภัย ก็ต้องเข้าไปดูว่าเป็นอย่างไร"นางจันทรา กล่าว
สำหรับการแก้ไขปัญหาของบริษัท สัมพันธ์ประกันภัย ที่ถูกสั่งให้หยุดการขายกรมธรรม์ชั่วคราวนั้น นางจันทรา กล่าวว่า กรมการประกันภัยได้ให้บริษัทจ่ายเงินค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันอย่างเร่งด่วน คาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม กรมการประกันภัยได้กำหนดให้บริษัทเสนอแผนทางธุรกิจ เข้ามาภายในวันที่ 7 ส.ค.นี้ โดยต้องระบุแนวทางการเพิ่มเงินกองทุน 777 ล้านบาทและการเพิ่มสภาพคล่องให้ชัดเจนว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด หากไม่ดำเนินการก็จะมาตรการจัดการ แต่ยืนยันว่า จะยังไม่ยึดใบอนุญาตการประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยและปิดกิจการโดยทันที เพราะต้องการให้บริษัทชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกัน และอู่ซ่อมรถยนต์ให้หมดเสียก่อน หากสั่งปิดกิจการทันที ต้องใช้เวลานานกว่าจะจ่ายเงินค่าสินไหมให้ได้ทั้งหมด
ส่วนกรณีของบริษัท ฟินันซ่าประกันชีวิต ที่ไม่สามารถดำรงเงินกองทุนประกันชีวิตให้ครบถ้วนตามกฎหมาย หรือ 10% ของเบี้ยรับสุทธิ จนถูกสั่งปรับ 125,000 บาทตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมานั้น บริษัทจะต้องยื่นแผนทางธุรกิจมาให้กรมพิจารณาภายในเดือนก.ค.นี้ ไม่เช่นนั้น กระทรวงพาณิชย์อาจแต่งตั้งคณะกรรมการเข้าควบคุมบริษัทเหมือนกับบริษัท สหประกันชีวิต ในขณะนี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ