นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.62 บาท/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่ เปิดตลาดที่ระดับ 32.65 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวระหว่าง 32.54-32.66 บาท/ดอลลาร์
"ระหว่างวันเงินบาทแข็งค่าลงไปทำ Low ที่ 32.54 บาท/ดอลลาร์ เข้าใจว่ามีผู้ส่งออกทองเทขายดอลลาร์ แต่หลังจาก นั้นก็อ่อนค่ากลับขึ้นมา และมาปิดตลาดที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์"นักบริหารเงิน กล่าว
ทั้งนี้ ยังประเมินกรอบเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 32.55 - 32.75 บาท/ดอลลาร์ โดยตลาดยังจับตาดูตัวเลขยอดค้า ปลีกเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ในคืนนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาแย่เช่นเดียวกับตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.35 เยน/ดอลลาร์ จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 107.00 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0934 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.0982 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,236.10 จุด ลดลง 20.25 จุด, -1.61% มูลค่าการซื้อขาย 69,418.86 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 3,321.49 ลบ.(SET+MAI)
- โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ
วันนี้ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเพิ่มขึ้น 30 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,643 คน จำนวนผู้ป่วยที่กลับบ้านได้แล้วรวมทั้งสิ้น
1,497 คน รักษาตัวอยู่ใน รพ.1,103 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 2 คน รวมเป็นผู้เสียชีวิตสะสม 43 คน
- นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลด้านผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่
ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีนายประสงค์ พูนธเนศ ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาและบรรเทาผล
กระทบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโปร่งใสและประชาชนได้รับความช่วยเหลืออย่างทั่วถึง
- นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะมีการประเมินมาตรการต่างๆ ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือน เม.ย.นี้ เพื่อพิจารณา
หาแนวทางให้ดีที่สุด และจะต้องเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดเป็นจำนวนมากและต้อง
มีมาตรการการป้องกันการกลับมาแพร่ระบาดใหม่
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงบประมาณเสนอการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่าย
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 เพื่อรองรับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)
- ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2563 บริษัท กสิกร วิชั่น ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้น
ธนาคารแมสเปี้ยน (PT Bank Maspion Indonesia Tbk) ประเทศอินโดนีเซีย ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นรวมเป็น 40% ซึ่งเป็นสัดส่วนสูง
สุดที่สำนักงานกำกับดูแลธุรกิจการเงินของอินโดนีเซีย (Otoritas Jasa Keuangan หรือ OJK) อนุญาตภายใต้กฎการถือครองหุ้น
ธนาคารในอินโดนีเซียโดยผู้ถือหุ้นที่เป็นธนาคารพาณิชย์ โดยเป็นการเพิ่มสัดส่วนจากที่ธนาคารกสิกรไทยมีอยู่เดิม 9.99% ตั้งแต่ปี 2560
- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ The Economist Intelligence Unit เปิดเผยว่า อาจมีหลายประเทศมากขึ้นที่ผิดนัด
ชำระหนี้ในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า เนื่องจากรัฐบาลทั่วโลกเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อจำกัดความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาด
ของโรคโควิด-19