เศรษฐกิจของอินเดียอาจเติบโตที่ระดับ 10% ต่อปี ในช่วงปีงบประมาณซึ่งเริ่มต้นที่เดือนเม.ย.2551 หากภาคการเกษตรที่ชะลอตัวลงก่อนหน้านี้นั้นฟื้นตัวดีขึ้น "การบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 10% ตั้งแต่เดือนเม.ย. 2550 ถึงเดือนมี.ค. 2551 นั้นเป็นเรื่องยาก แต่ก็อาจจะเป็นไปได้ในปี 2551-2552" นายปาลานีปพาน ชิดามบารัม รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอินเดียกล่าวกับนักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานอยู่ที่กรุงนิวเดลีเมื่อวานนี้ "มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้จะเป็นการทิ้งทวนผลงานของรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งมีวาระการดำรงตำแหน่งตลอดระยะเวลา 5 ปี และเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 10% หากอินเดียเร่งเพิ่มและปรับปรุงผลผลิตภาคการเกษตรให้เพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ซบเซาลงอย่างหนักก่อนหน้านี้" นายชิดามบารัมกล่าว เกษตรกรรมเป็นปัจจัยสำคัญอันดับที่ 5 ที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจของอินเดียเติบโต และเป็นแหล่งรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมของประชากรในประเทศถึง 2 ใน 3 ส่วน ทั้งนี้ อินเดียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่ที่สุดติดอันดับ 2 ของโลก ไม่ได้ส่งออกข้าวสาลีเลยในช่วงปีที่แล้ว หลังจากที่เกิดภาวะขาดแคลนในประเทศ ส่งผลให้อินเดียต้องนำเข้าสินค้าโภคภัณฑ์เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี เศรษฐกิจของอินเดียตั้งแต่ช่วงปีที่แล้วถึงเดือนมี.ค.ปีนี้ขยายตัว 9.4% สูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 9.2% และกระตุ้นการคาดการณ์เม็ดเงินทุนไหลเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยในช่วงปีงบประมาณที่แล้ว เศรษฐกิจอินเดียขยายตัวที่ระดับ 9.0% นายชิดามบารัมกล่าวว่า เศรษฐกิจของอินเดียร้อนแรงขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจของจีน หากพิจารณาในแง่ความจริงที่ว่าอินเดียต้องปฏิบัติตามแบบแนวทางประชาธิปไตยและสร้างความเห็นที่สอดคล้องกันทางการเมือง รวมถึงการพัฒนากฎหมายและอดทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ก่อนที่จะเดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป โดยอินเดียยังคงตามหลังจีนซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 10.7% ในปี 2549 ธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน