นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าอยู่ที่ระดับ 32.55 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากการเทขายดอลลาร์ และตัวเลขส่งออกที่ดีเกินคาด ระหว่าง วันเคลื่อนไหวในกรอบ 32.46-32.61 บาท/ดอลลาร์
"ช่วงเช้าบาทอ่อนค่าตามภูมิภาค แต่กลับมาทยอยแข็งค่าตามแรงเทขายดอลลาร์ และปิดแข็งค่าสุดของวัน" นักบริหารเงิน
ระบุ
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 32.45-32.60 บาท/ดอลลาร์ โดยต้องติดตามทิศ ทางราคาน้ำมันในตลาดโลก
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 107.40 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 107.70 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0829 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0855 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,252.92 จุด ลดลง 13.48 จุด, -1.06% มูลค่าการซื้อขาย 58,676.75 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 6,098.13 ล้านบาท(SET+MAI)
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือน มี.ค.63
โดยการส่งออกมีมูลค่า 22,404.6 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 4.17% จากตลาดคาดว่าจะหดตัว -5.8% โดยมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 8
เดือนจากสินค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 20,812.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 7.25% ขณะที่ดุลการค้าเกินดุล
1,592.1 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบในหลักการการขยายกลุ่มเป้าหมายผู้ได้รับสิทธิของมาตรการชดเชยรายได้แก่
ลูกจ้างของสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ หรือผู้ได้รับผลกระทบอื่น ๆ ของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โควิด-19) ให้ครอบ
คลุมทั่วถึงผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากเดิม 9 ล้านคน เป็น 14 ล้านคน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
- ธนาคารออมสิน ขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยนี้เพิ่มจาก 3 เดือน เป็น 6 เดือน โดยไม่จำกัดยอดเงินต้น
คงเหลือ ยกเว้นสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการ SMEs วงเงินกู้คงเหลือเพิ่มจากไม่เกิน 20 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งจะมีผล
โดยอัตโนมัติทันทีตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.- 30 ก.ย.63 โดยลูกค้าไม่ต้องยื่นแสดงความจำนงที่ธนาคารออมสินแต่อย่างใด
- นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จะพิจารณาทบทวนการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจาก
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสัปดาห์หน้าว่ามีความจำเป็นต้องต่ออายุออกไปจากที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย.นี้หรือไม่
- ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศวันนี้ พบผู้
ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 19 คน ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 2,811 คน จำนวนผู้ที่หายปวยแล้วรวมทั้งสิ้น 2,108 คน กลับบ้าน
เพิ่มขึ้นอีก 109 คน เสียชีวิตเพิ่ม 1 คน รวม 48 คน ยังรักษาตัวอยู่ที่รพ. 655 ราย
- องค์การอนามัยโลก (WHO) เตือนว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โค
วิด-19) เร็วเกินไป อาจทำให้โควิด-19 กลับมาระบาดอีกครั้ง
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมาเตือนในวันนี้ว่า ถ้าหากยังไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์
ใหม่ (โควิด-19) ได้ ก็อาจจะส่งผลกระทบทางลบต่อเศรษฐกิจ และทำให้ระบบการเงินของญี่ปุ่นขาดเสถียรภาพ
- เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P) เตือนว่า การว่างงานในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เนื่องจากการแพร่
ระบาดของไวรัสโควิด-19 และงานบางประเภทอาจจะยังไม่สามารถกลับมาปฏิบัติได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
- ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยว่า แม้ว่าหลายประเทศจะดำเนินการตอบสนองอย่างหนัก
หน่วง มาตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมากเพื่อหลีก
เลี่ยงไม่ให้เศรษฐกิจเกิดความเสียหายและเข้าสู่ภาวะถดถอยยืดเยื้อยาวนาน