ธ.ก.ส. กำหนดเป้าหมายโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 พื้นที่ไม่เกิน 45.7 ล้านไร่

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 28, 2020 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธ.ก.ส. กำหนดเป้าหมายโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 พื้นที่ไม่เกิน 45.7 ล้านไร่

นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 มีเป้าหมายส่งเสริมการทำประกันภัยบนพื้นที่ปลูกข้าวทั่วประเทศ ไม่เกิน 45.7 ล้านไร่ ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยมีทั้งการประกันภัยขั้นพื้นฐาน กรณีเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 97 บาท/ไร่ เท่ากันทุกพื้นที่ กรณีเกษตรกรทั่วไปในพื้นที่เสี่ยงต่ำอัตราค่าเบี้ยประกันภัย 58 บาทต่อไร่ ในพื้นที่เสี่ยงปานกลาง อัตราค่าเบี้ยประกันภัย 210 บาทต่อไร่ และในพื้นที่เสี่ยงสูง อัตรา ค่าเบี้ยประกันภัย 230 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม) โดยรัฐบาลอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัย 58 บาทต่อไร่

ธ.ก.ส. กำหนดเป้าหมายโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2563 พื้นที่ไม่เกิน 45.7 ล้านไร่

กรณีเป็นลูกค้าเงินกู้ ธ.ก.ส. ที่ใช้บริการสินเชื่อเพื่อปลูกข้าว ธ.ก.ส.จะจ่ายสมบทค่าเบี้ยประกันภัยแทนเกษตรกร 39 บาทต่อไร่ โดยคุ้มครองในกรณีเกิดภัยธรรมชาติ 7 ภัย ได้แก่ ภัยน้ำท่วม/ฝนตกหนัก ภัยแล้ง/ฝนแล้ง/ ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ/พายุไต้ฝุ่น ภัยอากาศหนาว/น้ำค้างแข็ง ลูกเห็บ ไฟไหม้ และช้างป่า วงเงินคุ้มครองจำนวน 1,260 บาทต่อไร่ และในกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด วงเงินคุ้มครอง 630 บาทต่อไร่

นอกจากนี้รัฐบาลยังสนับสนุนให้เกษตรกรทำประกันภัยส่วนเพิ่ม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองที่มากขึ้นและสอดคล้องกับสภาวะอากาศของโลกในปัจจุบันที่แปรปรวนอย่างมาก โดยแบ่งตามระดับความเสี่ยง กรณีพื้นที่เสี่ยงต่ำ ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 24 บาทต่อไร่ พื้นที่เสี่ยงปานกลาง ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 48 บาทต่อไร่ และพื้นที่เสี่ยงสูง ชำระค่าเบี้ยประกันเพิ่ม 101 บาทต่อไร่ (ไม่รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ การทำประกันภัยส่วนเพิ่มดังกล่าว เกษตรกรจะได้รับวงเงินคุ้มครอง เมื่อเกิดภัยธรรมชาติเพิ่มอีกในวงเงิน 240 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 1,500 บาทต่อไร่ และกรณีเกิดภัยศัตรูพืช/โรคระบาด ได้รับวงเงินคุ้มครองเพิ่ม 120 บาทต่อไร่ รวมเงินประกันภัยที่ได้รับ 750 บาทต่อไร่ ระยะเวลาขายกรมธรรม์ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันสิ้นสุดการขายเป็นรายจังหวัด

นายสมเกียรติ กล่าวต่อไปว่า เกษตรกรที่เป็นผู้เอาประกันภัยต้องขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนผู้ปลูกข้าวนาปี ปี 2563/64 กับกรมส่งเสริมการเกษตรหรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอ อย่างไรก็ตาม การใช้บริการที่สาขาจะดำเนินมาตรการตามหลักการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ