ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 32.36 แข็งค่าจากช่วงเช้าเล็กน้อยหลังดอลล์อ่อน คาดกรอบสัปดาห์หน้า 32.25-32.45

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 30, 2020 16:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 32.36 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อยจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.39/41 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทในช่วงเย็นนี้ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเช้า จากผลของดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ แต่ ระหว่างวันเงินบาทไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก โดยแข็งค่าสุดที่ระดับ 32.31 บาท/ดอลลาร์ และอ่อนค่าสุดที่ระดับ 32.42 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่ใกล้เคียงกับวันนี้ โดยต้องติดตามความไม่แน่นอนเรื่องการ ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ และการเริ่มเปิดเมืองของประเทศต่างๆ ตลอดจนติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ตัวเลขการจ้าง งาน ขณะที่ที่ปัจจัยในประเทศ ยังคงต้องติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งระยะหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น รวมถึงติดตาม การเยียวยาของภาครัฐเพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจให้แก่ประชาชนในส่วนต่างๆ

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.25-32.45 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 32.3369 บาท/ดอลลาร์

*ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.71 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.72 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0874 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0864 ดอลลาร์/ยูโร
  • ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงมาตรการผ่อนปรนกิจการ/กิจกรรมใน 6 กลุ่มแรก เริ่มตั้งแต่วันที่ 3 พ.
ค.นี้ ประกอบด้วย 1. ตลาด 2.ร้านจำหน่ายอาหาร 3.กิจการค้าปลีก-ส่ง 4. กีฬา สันทนาการ 5. ร้านตัดผมเสริมสวย 6. อื่นๆ
ได้แก่ ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์ อย่างไรก็ดี ศบค. ยังไม่ได้ยกเลิกคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งจะทำให้
การจำหน่ายสุรา ไวน์ และเบียร์ต่างๆ ยังไม่สามารถทำได้ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในเดือน มี.ค.63 หดตัวสูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดย
การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจรุนแรงขึ้นในทุกด้าน โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวรุนแรง หลังหลาย
ประเทศ รวมถึงไทยประกาศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศ ด้านการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำหดตัวสูงขึ้นตามอุปสงค์
ของประเทศคู่ค้าและราคาน้ำมัน สำหรับเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนหดตัวตามปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อที่อ่อนแอลง และมาตรการควบคุม
โรคที่เข้มงวดขึ้น
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 คาดว่าจะติดลบแน่นอน ส่วนตัวเลขจริง
จะติดลบมากน้อยเพียงใดนั้นต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ใน
วันที่ 18 พ.ค.นี้ และคาดว่าจะเห็นการหดตัวที่มากขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ส่วนไตรมาสถัดๆ ไปนั้น ต้องติดตามจากหลายปัจจัย เช่น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศ, จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ, ภาวะเศรษฐกิจโลก และผลจากมาตรการของ
ภาครัฐ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะเห็นผลชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่าภาพรวมการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในปี 2563 จะยังหดตัวราว 5-8% เมื่อเทียบกับปีที่
แล้ว โดยเฉพาะค้าปลีกที่ขายสินค้าไม่จำเป็น/ฟุ่มเฟือย เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าเฉพาะอย่างวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง
บ้าน น่าจะได้รับผลกระทบรุนแรงและกลับมาฟื้นตัวได้ช้ากว่าค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าจำเป็นพวกอุปโภคบริโภคอย่างซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงแพ
ลตฟอร์มออนไลน์ของโมเดิร์นเทรด ผู้ผลิตสินค้า และ Social Commerce
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงิน
กู้ ภายใต้ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการ
ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 ว่า ได้สั่งการให้คณะกรรมการกลั่นกรองฯ พิจารณาหลักเกณฑ์กำหนดรูปแบบ
โครงการที่ก่อให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนและท้องถิ่น Local Economy เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน
เดือนพ.ค.นี้
  • มูลค่าตลาดของสกุลเงินดิจิทัลพุ่งขึ้น 3.53 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา นำโดยบิตคอยน์ที่ทะยานขึ้น
18.57% แตะที่ 9,388.30 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่วันที่ 7 มี.ค.

นักวิเคราะห์ในแวดวงสกุลเงินดิจิทัลมองว่า การที่บิตคอยน์พุ่งนำตลาดนั้นมาจาก 2 ปัจจัยด้วยกัน คือการที่ธนาคารกลางทั่ว โลกออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากโควิด-19 และการเกิดภาวะ bitcoin halving ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้น ในเดือนพ.ค.

  • สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยรายงานในวันนี้ระบุว่า ความต้องการลงทุนในทองคำทั่วโลกพุ่งขึ้นในไตรมาสแรก เนื่อง
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้กระตุ้นความต้องการลงทุนในทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
  • สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า รัฐสภาญี่ปุ่นเตรียมจัดสรรงบประมาณพิเศษ 25.69 ล้านล้านเยน (2.4 แสนล้าน
ดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับปีงบประมาณ 2563 ในวันนี้ เพื่อเป็นงบให้กับมาตรการฉุกเฉินเพื่อรองรับเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโค
โรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ