COVID-19กทม.ขู่สั่งปิดทันทีหากพบร้านค้าปลีก-ค้าส่งปล่อยให้คนรุมแย่งซื้อสินค้าเสี่ยงโควิดระบาด

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday May 7, 2020 16:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมาหนคร (กทม.) เปิดเผยว่า กทม.จะสั่งปิดทันทีหากพบว่าร้านค้าปลีก-ค้าส่งปล่อยให้ลูกค้ารุมแย่งกันซื้อสินค้า

"ศบค.ให้อำนาจผู้ว่าฯ กทม.ในการออกมาตรการควบคุมจึงได้กำหนดมาตรการเว้นระยะห่าง และกรณีที่เกิดเหตุลูกค้ารุมกันแย่งซื้อสินค้าในร้านค้าปลีกค้าส่งดังเช่นในอดีตก็พร้อมจะสั่งปิดสถานที่นั้นทันที"

สำหรับภาพรวมการคลายล็อกมาตรการปิดสถานที่ในระยะแรก พบว่าส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือดี ทั้งในส่วนของตลาด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ตลาดชุมชน ซึ่งให้ขายได้ทุกอย่างแต่การขายต้องมีมาตรการในการควบุคม ทั้งการวัดอุณหภูมิ การล้างมือ การเว้นระยะห่างระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ขณะที่บางตลาดที่มีพื้นที่เล็กมากก็ให้มีการใช้ฉากกั้นระหว่างร้านค้าด้วยกัน และมีการทำความสะอาดฉากกั้นและล้างมือบ่อยๆ

ร้านอาหาร ซึ่งรัฐกำหนดให้มีการเว้นระยะห่าง 1 เมตร แต่สำหรับร้านอาหารใน กทม.ได้ขอความร่วมมือหากจะมีการนั่งร่วมโต๊ะกันในระยะห่าง 1-1.5 เมตรขอให้มีฉากกั้น แต่ถ้าเกิน 1.5 เมตรก็ไม่จำเป็นต้องมีฉากกั้นแต่ใช้การเว้นระยะห่างได้ แต่ต้องไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ต้องมีทำความสะอาดโต๊ะ พาชนะหลังใช้ทันที แต่ก็ยังยืนยันว่าช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่ปกติ ร้านอาหารก็ยังไม่ควรจะเป็นสถานที่ที่มีคนมารวมตัวกัน

สถานที่ออกกำลังกาย สวนสาธารณะ ซึ่งตอนนี้มีคนมาใช้บริการจำนวนมาก ซึ่ง กทม.เป็นห่วงว่าสวนสาธารณะจะเป็นแหล่งในการรวมตัวของคน ในส่วนของนักวิ่งหากใส่หน้ากากอนามัยขณะวิ่งอาจจะเป็นอันตรายในการสูดคาร์บอนไดออกไซด์กลับเข้าไปในร่างกาย แต่หากไม่ใส่หน้ากากอนามัยก็อ่าจจะได้รับเชื้อโควิด-19 เพราะฉะนั้นช่วงนี้ถ้าเป็นไปได้อย่าเพิ่งวิ่งแต่ใช้การเดินออกกำลังกายแทนไปก่อน

สำหรับปัญหาความแออัดของรถไฟฟ้า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมายัง กทม.ให้ดำเนินการแก้ปัญหา ซึ่งผู้ว่าฯ กทม.ได้ออกนโยบายให้มีการจัดเจ้าหน้าที่เทศกิจไปดูแล 17 สถานีที่มีผู้คนแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน สถานีละ 6 คนไปจัดระเบียบผู้ใช้บริการรถไฟฟ้าให้มีการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ขณะเดียวกันอยากให้ผู้ใช้บริการปรับเวลา เหลื่อมเวลาในการไปทำงาน-เลิกงาน ใช้บัตรโดยสารส่วนตัวแทนการหยอดเหรียญเพื่อซื้อบัตรโดยสาร ซึ่ง กทม.พยายามผลักดันการใช้ตั๋วร่วมระหว่างรถไฟฟ้ากับรถไฟใต้ดิน คาดว่าในเร็ววันนี้จะทำได้ ลดการพูดคุยกัน ลดการใช้โทรศัพท์ระหว่างการเดินทางเพื่อลดโอกาสในการแพร่กระจายเชื้อออกไป ล้างมือหลังจับราวโดยสาร เว้นระยะห่างขณะอยู่ในขบวนรถ

"4 วันแล้วที่กรุงเทพมหานครไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม แต่เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อในภาพรวมยังมีอยู่ ดังนั้น ขอให้มีมาตรการเว้นระยะห่างอยู่ ก่อนที่จะมีการผ่อนคลายสถานที่ในระยะที่ 2...ขอให้ร่วมมือจะได้ควบคุมการแพร่ระบาดไม่ให้กระจายเป็นวงกว้าง และเน้นย้ำว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นเราอาจจะมีการใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด"ร.ต.อ.พงศกร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ