กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือนมิ.ย.50 อยู่ที่ระดับ 117.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจาก พ.ค.50 และเพิ่มขึ้น 1.9% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.49 สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน มิ.ย.50 อยู่ที่ระดับ 105.5 สูงขึ้น 0.1% จากเดือน พ.ค.50 และเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย.49 ส่วน CPI เฉลี่ย 6 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-มิ.ย.)เพิ่มขึ้น 2.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ Core CPI เพิ่มขึ้น 1.2% นางนทีทิพย์ ทองเขาอ่อน ผู้อำนวยการ สำนักดัชนีเศรษฐกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เหตุที่ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมิ.ย.50 ไม่เปลี่ยนแปลงจกาเดือนก่อนหน้า เป็นการชะลอตัวเดือนแรกหลังจากสูงขึ้นมากติดต่อกันในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ดัขนีในหมวดอาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.2% ซึ่งเป็นการสูงขึ้นในอัตราที่ชะลอลงจาก พ.ค.50 ที่สูงขึ้น 1% ขณะที่ดัชนีหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง เป็นผลจากการบริโภคยังคงชะลอตัว จึงทำให้ราคาสินค้า อยู่ในระดับที่ทรงตัว นางนทีทิพย์ กล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนมิ.ย.50 สูงขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.9% เป็นผลจากการสูงขึ้นของดัชนีสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 5.3% ในสินค้าหมวดข้าว แป้ง ผักและผลไม้ และเครื่องประกอบอาหาร ส่วนดัชนีหมวดอื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง หากพิจารณา CPI เฉลี่ยช่วงครึ่งปีแรกที่สูงขึ้น 2.2% ถือว่าเป็นอัตราที่ต่ำกว่าค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกันช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ CPI เฉลี่ย 6 เดิอนแรกของปี 49 สูงขึ้นถึง 5.9% นางนทีทิพย์ ยังมั่นใจว่าจะรักษาอัตราเงินเฟ้อทั้งปี 50 ไว้อยู่ในกรอบไม่เกิน 2.5% เมื่อเทียบกับจีดีพีในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตประมาณ 4% "CPI ไม่น่าห่วง เพราะยังอยู่ในกรอบที่วางไว้ คือ 1.5-2.5% เชื่อว่าไม่เกินแน่ ๆ เพราะครึ่งปีแรก ก็อยู่ในกรอบที่ไม่เกิน 2.5%"นางนทีทิพย์ กล่าว นางนทีทิพย์ กล่าวว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันในขณะนี้ ถือว่าส่งผลดีเพราะเมื่อเทียบกับราคาน้ำมันในเดือนมิ.ย.49 จะพบว่าราคาน้ำมันในปีนี้ปรับลดลง เนื่องจากปีก่อน ฐานราคาน้ำมันค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงเชื่อว่าราคาน้ำมันปีนี้จะไม่กรทะบกับเงินเฟ้อมากนัก นอกจากนี้ จากการสำรวจราคาสินค้าและบริการทั่วประเทศทั้ง 373 รายการ พบว่ามีสินค้าถึง 46% ที่ระดับราคาทรงตัว