ภาวะตลาดเงินบาท: เช้านี้หลุด 31 มาแตะ 30.94 แข็งค่ารอบ 4 เดือนตามทิศทางภูมิภาคหลังดอลล์อ่อน ให้กรอบวันนี้ 30.90-31.05

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday June 11, 2020 09:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 31.05 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 31.15 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเมินว่าเศรษฐกิจจะแย่ลง ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก โดยเมื่อเวลา 08.40 น.เงินบาทแข็งค่าสุดใน รอบกว่า 4 เดือนนับจากวันที่ 5 ก.พ.63 ลงมาอยู่ที่ 30.94 บาท/ดอลลาร์

"บาทแข็งค่าในทิศทางเดียวกับภูมิภาค แต่ปรับตัวหลุด 31 บาทลงมาเร็วมาก เช้านี้ลงมาทำนิวโลว์ในรอบกว่า 4 เดือน" นัก
บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 30.90-31.05 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (10 มิ.ย.) อยู่ที่ระดับ 0.45036% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.55941%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 106.94 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.33 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1390 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1354 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 31.1990 บาท/ดอลลาร์
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไขการชะลอการชำระหนี้ ระยะเวลา
การชะลอการชำระหนี้ วิธีการชำระหนี้เงินต้น และดอกเบี้ยที่ชะลอไว้เพิ่มเติม เพื่อให้สถาบันการเงินถือปฏิบัติให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ พ.
ร.ก.การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจ ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อาทิ สินเชื่อบางประเภทที่ใช้หลักประกันเป็น
ใบสั่งสินค้า ตัวสินค้าที่ซื้อขาย สถาบันการเงินมีสิทธิ์นำเงินที่ผู้ซื้อสินค้าหรือลูกหนี้ ทางการค้าชำระค่าสินค้าผ่านสถาบันการเงิน ไปหักชำระ
หนี้ที่มีอยู่ที่สถาบันการเงินตามข้อสัญญาของสินเชื่อหมุนเวียนได้
  • กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย และประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารพาณิชย์อยู่ระหว่างพิจารณาแนว
ทางช่วยเหลือลูกหนี้ของแต่ละธนาคารเพิ่มเติม เพราะกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นคืนต้องใช้เวลาอีกนาน ทำให้ลูกหนี้ยังได้รับผลกระทบต่อเนื่อง
จากรายได้ลดน้อยลง โดยธนาคารต้องมาหารือว่าจะทำอย่างไรหลังจากในเดือน ก.ย.นี้จะสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ 6 เดือน ซึ่งถือเป็น
เรื่องใหญ่ เช่น อาจต้องดูลูกหนี้เป็นรายๆ ไป เพราะความช่วยเหลือและผลกระทบต่างกัน ทั้งปรับโครงสร้างหนี้ ลดดอกเบี้ย ยืดระยะ
เวลาชำระหนี้ ลดค่างวด เป็นต้น ซึ่งต้องให้ลูกหนี้ชำระคืนเท่าที่รับภาระได้
  • รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยสถานการณ์ท่องเที่ยว 5 เดือน (ม.ค.พ.ค. 63) ว่า ในช่วง 5 เดือนของปีนี้
ประเทศไทยมี รายได้จากการท่องเที่ยวรวมทั้งรายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทย ลดลงกว่า 7.52 แสนล้าน
บาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ลดลง 4.89 แสนล้านบาท และรายได้นักท่องเที่ยวไทย
เที่ยวไทย ลดลง 2.63 แสนล้านบาท มีสาเหตุหลักมาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในเดือน เม.ย.-พ.
ค.63 ประเทศไทยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาแม้แต่คนเดียว จากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการประกาศห้าม
อากาศยานทำการบินเข้าสู่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว
  • หอการค้าไทย นำเสนอ 6 แนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยวไทย-จีน หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 เริ่มดีขึ้น
แนะรัฐบาลไทยจัดโครงการนำร่องเปิดน่านฟ้าไทย ให้นักธุรกิจ นักเรียนนัก ศึกษาจีน การเดินทางมาเยี่ยมญาติและกลุ่มทัวร์ขนาดเล็ก 5-
10 คน ได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ มั่นใจมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยเดือนละ 11,000 คน ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะกว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะ
ปกติต้องใช้เวลาอีก 1 ปี
  • กรรมการผู้จัดการ ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่ากลุ่มลูกค้าต่าง
ชาติโดยเฉพาะชาวจีนยังมีความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมในไทย และจะกลายเป็นกำลังซื้อที่สำคัญเมื่อมีการผ่อนคลายมาตรการด้านการเดิน
ทาง หลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 บรรเทาลง
  • คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25%
ในการประชุมเมื่อวานนี้ และยืนยันว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวจนกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นจากการแพร่ระบาด
ของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ รวมทั้งรักษาเสถียรภาพของราคา

ในการประชุมครั้งนี้ เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 6.5% ในปีนี้ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น 5% ในปี 2564 และคาด ว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ระดับ 9.3% ในปีนี้ ก่อนที่จะลดลงแตะระดับ 6.5% และ 5.5% ในปี 2564 และ 2565 ตามลำดับ

  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ซึ่ง
เสร็จสิ้นลงเมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) โดยระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ
ในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญกับความท้าทายในขณะนี้ โดยเฟดเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนการจ้างงานให้ขยายตัวอย่างเต็ม
ศักยภาพ และบรรลุเป้าหมายการรักษาเสถียรภาพด้านราคา
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปลดลง 0.1% ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นการปรับตัวลง
ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.)
หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปจนถึงปี 2565 และยังคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะ
หดตัวลง 6.5% ในปีนี
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 มิ.ย.) ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะรู้ผลการประชุมนโยบายการ
เงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
  • ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้
ผลิต (PPI) เดือนพ.ค., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนมิ.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ