ภาวะตลาดเงินบาท: ปิดตลาด 31.08 อ่อนค่าจากช่วงเช้า คาดมี Flow ตลาดหุ้น มองกรอบพรุ่งนี้ 31.00-31.20

ข่าวเศรษฐกิจ Monday June 15, 2020 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ที่ระดับ 31.08 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากตอนเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.01 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวในช่วง 30.94-31.08 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทปิดที่ระดับอ่อนค่าสุดของวัน แม้ว่าเช้าจะแข็งค่าลงทำไปจุดต่ำสุดของวัน ก่อนจะไล่ขึ้นมาจนกระทั่งปิดตลาดไป ในที่สุด ต้องรอดู Flow ของตลาดหุ้น แต่โดยรวมถือว่าเกาะกลุ่มไปกับภูมิภาค" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ระหว่าง 31.00 - 31.20 บาท/ดอลลาร์ โดยยังต้องติดตามสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ ส่วนการเจรจา Brexit อาจจะยังไม่ชัดเจน แต่ถ้ามีข้อสรุปอะไรออกมา น่าจะส่งผลต่อค่าเงินปอนด์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.30 เยน/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเช้า
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1252 ดอลลาร์/ยูโร จากตอนเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.1253 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,341.99 จุด ลดลง 40.57 จุด, -2.93% มูลค่าการซื้อขาย 83,379.76 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 4,038.53 ลบ.(SET+MAI)
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หลังจากที่ผ่อนคลายมาตรการในระยะที่ 4 แล้ว ต้องดูว่าสถิติ
การการแพร่ระบาดภายในประเทศแต่ละวันจะเพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไร แต่สถานการณ์ในขณะนี้พบว่าเป็นผู้ที่รับเชื้อมาจากต่าง
ประเทศ และอยู่ในสถานที่กักกันตัวของรัฐ หรือ State Quarantine จึงสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อย่างไรก็ดี หากมีการ
ผ่อนปรนไปแล้ว แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ ก้อาจจะกลับมาประกาศเคอร์ฟิวใหม่ได้
  • นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบนโยบายแก่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
โดยประเมินว่า จากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดไปหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั่วโลก และเชื่อว่าภายใน 1-
2 ปีนี้สถานการณ์เศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น แต่ต้องการให้บีโอไอใช้โอกาสนี้ในการสร้างจุดเด่นให้กับประเทศไทย เพื่อดึงดูดการลงทุนใน
อนาคต และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (HUB) ด้านเกษตรและการแพทย์ ในกลุ่ม CLMVT
  • ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เดินหน้าหลายมาตรการเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยตั้งแต่เดือน ม.ค.63 ที่ธนาคารเริ่มโครงการช่วยเหลือลูกค้า จนถึงล่าสุด ณ วันที่ 10 มิ.
ย.63 ธนาคารได้ดูแลช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการและลูกค้าบุคคลรายย่อย ผ่านมาตรการของธนาคารและโครงการของทาง
การแล้วรวมเป็นจำนวนกว่า 9.15 แสนราย
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัสเปิดเผยว่า มาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อรับมือกับไวรัสโควิด-19
นั้น มีความสำคัญพอๆ กับงบประมาณที่รัฐบาลต้องใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ แต่ทุกวันนี้ความพยายามที่จะลดจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19
ไม่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์ว่าอัตราการว่างงานในสหรัฐจะอยู่ที่ 8% ภายในสิ้นปีนี้
  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นจะกลับมาดำเนินการปฏิรูปการคลังเมื่อเศรษฐกิจฟื้นฟูกลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง
หลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่ปัจจุบัน เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย และอาจหด
ตัวกว่า 20% ในไตรมาส 2 ของปีนี้ หลังการบริโภคและภาคธุรกิจได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุม
การแพร่ระบาดของโควิด-19
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินเป็นวันแรก โดยมีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า
BOJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • นักเศรษฐศาสตร์จากมอร์แกน สแตนลีย์ ได้แสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังอยู่ในวงจรการขยายตัว และ
คาดว่าภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ผลผลิตทางเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) เปิดเผยผลสำรวจนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวม

ภายในประเทศ (GDP) ของสิงคโปร์ จะหดตัวลง 5.8% ในปี 2563


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ