"ประสงค์"ชี้มาตรการ ศก.ทำงานไม่เต็มที่ แนะรัฐบริหารงบให้มีประสิทธิภาพ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 4, 2007 13:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) กล่าวว่า การบริหารนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลในช่วงปีงบประมาณ 50 ถือว่ายังทำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะหากเปรียบเทียบการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจใน 4 ด้าน คือ การค้า, การลงทุน, การบริโภค และการท่องเที่ยว กับเครื่องยนต์ 4 สูบจะพบว่ามีเครื่องยนต์ที่สามารถทำงานได้เพียง 2 สูบเท่านั้น คือ การค้าและการท่องเที่ยว "เรื่องการค้า การท่องเที่ยวเท่านั้นที่พอจะเห็นว่าพอไปได้ แต่ไม่ได้มาก การค้าแม้จะเกินดุล แต่การนำเข้าสินค้าทุนถ้าดูตัวเลขให้ดีพบว่าลดลงมาก เรื่องการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาถดถอยอย่างมากและชัดเจน สืบเนื่องจากปัญหาหลายอย่างที่เกียวข้องกับรัฐบาล" น.ต.ประสงค์ กล่าวในการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 51 น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า นโยบายเศรษฐกิจโดยเฉพาะด้านการลงทุนของรัฐบาลในปีงบประมาณ 50 ได้สร้างความไม่มั่นใจและส่งสัญญาณในเชิงลบต่อการเข้ามาลงทุนของต่างชาติ โดยเฉพาะการออกมาตรการกันสำรอง 30% ที่ทำให้เกิดภาวะการลงทุนถดถอยอย่างชัดเจน ขณะที่การลงทุนของรัฐวิสาหกิจเองก็ขาดความต่อเนื่องเช่นกัน "การลงทุนจากต่างประเทศที่ขาดความมั่นใจในนโยบายรัฐบาล จากนโยบายของอดีต รมว.คลัง เรื่องกันสำรอง 30% มันเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการลงทุนจากต่างประเทศและเป็นการส่งสัญญาณทางลบกับทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุน" น.ต.ประสงค์ กล่าว ทั้งนี้ น.ต.ประสงค์ ได้ฝากให้รัฐบาลทบทวนการบริหารนโยบายเศรษฐกิจตามกรอบงบประมาณ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ เพราะหากปล่อยให้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจเดินได้เพียง 2 สูบก็มีโอกาสที่เครื่องยนต์จะดับได้ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปี 51 นั้น น.ต.ประสงค์ ระบุว่า การจัดทำงบกลางของรัฐบาลยังเห็นว่าเป็นการตั้งงบในจำนวนที่สูงถึง 2.45 แสนล้านบาท อีกทั้งไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนถึงวัตถุประสงค์ที่จะนำไปใช้จ่าย รวมทั้งติงการตั้งเงินสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่มีอยู่ 41,000 ล้านบาทว่าสูงเกินไปเช่นกัน "ปัญหาปากท้องประชาชนยังเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ตกหลายอย่าง ทั้งคนจน เกษตรกร รัฐบาลต้องรู้ว่าคนเหล่านี้เดือดร้อนมาก...แต่ดูจากงบประมาณที่รัฐเสนอมา ผมยังไม่เห็นว่าเงินชดเชยหรือเงินบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นเหล่านี้จะบรรเทาความเสียหายให้กับพวกเขาอย่างไร" น.ต.ประสงค์ กล่าว พร้อมเห็นว่ารัฐบาลควรจะรับฟังความคิดเห็นและข้อติติงจาก สนช. เพื่อความเป็นธรรมของประชาชนผู้เสียภาษีให้กับรัฐบาล ซึ่งเป็นหน้าที่ของ สนช.ที่ต้องช่วยกันทำให้การจัดสรรงบประมาณเป็นประโยชน์และคุ้มค่าเงินของประชาชน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ