ครม.อนุมัติลงนามข้อตกลงBSAฉบับ 3กับญี่ปุ่นขยายความร่วมมือด้านทุนสำรองฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday July 10, 2007 14:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          คณะรัฐมนตรีเห็นชอบความตกลงทวิภาคีว่าด้วยการแลกเปลี่ยนเงินตรา (บีเอสเอ) ระหว่างประเทศไทย และญี่ปุ่นฉบับที่ 3 พร้อมทั้งมอบหมายให้ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลงนามในสัญญาดังกล่าวกับธนาคารกลางญี่ปุ่น
สัญญาดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความตกลงทวิภาคระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน + 3 ( อาเซียน 10 ประเทศ ร่วมกับ จีน, ญี่ปุ่นและเกาหลี) เพื่อเป็นกลไกความร่วมมือทางการเงินในภูมิภาคในการเสริมสภาพคล่องระยะสั้นระหว่างกัน และช่วยเหลือด้านการเงินที่ได้รับจากองค์กรการเงินระหว่างประเทศ
“เป็นข้อตกลงในการร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเงินที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน + 3 ซึ่งสมาชิกอาเซียนสามารถทำความตกลงกับประเทศญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ตามวงเงินสูงสูดที่กำหนดไว้แต่ละสัญญาและเงื่อนไขเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ซึ่งประโยชน์การลงนามจะเป็นมาตรการป้องกันช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาดุลการชำระเงิน หรือ ขาดสภาพคล่องในระยะสั้น รวมถึงเป็นมาตรการเสริมกลไกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และประเทศคู่สัญญาสามารถเบิกถอนเงินจำนวนหนึ่งโดยไม่จำเป็นต้องผูกติดกับเงื่อนไขไอเอ็มเอฟ “
สำหรับสาระสำคัญ เช่น ไทยและญี่ปุ่นสามารถกู้ระหว่างกันได้กรณีที่ประสบปัญหาดุลการชำระเงินหรือขาดสภาพคล่องระยะสั้นในรูปการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ กับเงินบาท และเงินดอลลาร์สหรัฐกับเงินเยน โดยวงเงินที่เบิกถอนระหว่างกันได้สูงสุด 6 พันล้านเหรียญสหรัฐ กรณีที่ไทยขอกู้จากญี่ปุ่น และ วงเงิน 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ กรณีที่ญี่ปุ่นขอกู้จากไทย ซึ่งการกู้แต่ละครั้งอายุ 90 วัน และสามารถต่ออายุได้ 7 ครั้ง รวมเป็นเวลา 2 ปี
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังให้เหตุผลว่าการจัดทำสัญญาบีเอสเอ จะสร้างความน่าเชื่อถือของไทยในตลาดการเงิน และสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างประเทศถึงความแข็งแกร่งของภาวะเศรษฐกิจที่มีเงินทุนสำรองระหว่างสำรองให้เบิกจ่ายกรณีฉุกเฉิน และที่สำคัญมั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน + 3 ในกรณีที่ประสบปัญหาดุลการชำระเงินหรือขาดสภาพคล่องในระยะสั้น
สำหรับ ณ.เดือน พ.ค. ไทยได้ลงนามในสัญญาบีเอสเอ แล้ว 16 สัญญา รวมวงเงิน 80 พันล้านเหรียญสหรัฐ เช่น การลงนามไทยและญี่ปุ่นในฉบับที่ 2 ซึ่งไทยและญี่ปุ่นสามารถกู้เงินระหว่างกันได้สูงสุด 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ อายุสัญญา 2 ปี , ไทยและจีน โดยไทยสามารถกู้เงินจากฝ่ายจีนเพียงฝ่ายเดียว 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ, ไทยและเกาหลี ฉบับที่ 2 เป็นรูปแบบที่ทั้งสองกู้เงินระหว่างกันได้ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็นต้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ