ภาวะตลาดเงินบาท: บาทปิดตลาด 31.67 อ่อนค่าจากเช้า มีแรงซื้อดอลลาร์ต่อเนื่อง มองกรอบพรุ่งนี้ 31.55-31.75

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 16, 2020 17:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.67 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.60 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้อ่อนค่าจากช่วงเช้า เนื่องจากยังมีแรงซื้อดอลลาร์เป็นจำนวนมาก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวใน กรอบ 31.57-31.75 บาท/ดอลลาร์

"บาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยยังคงมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามามาก ขณะที่ผู้ส่งออกยังเก็บดอลลาร์ไว้อยู่" นัก
บริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ระหว่าง 31.55 - 31.75 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 107.11 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 106.96 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1386 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1415 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,347.86 จุด ลดลง 6.45 จุด (-0.48%) มูลค่าการซื้อขาย 47,812 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,985.89 ลบ.(SET+MAI)
  • "กลุ่ม 4 กุมาร" นำโดยนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง พร้อมนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน, นายสุ
วิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการ
เมือง ร่วมแถลงข่าวเปิดใจภายหลังยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่จะมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป รวมทั้งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์
รองนายกรัฐมนตรีด้วยเช่นกัน โดยยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี และถือเป็นเวลาที่เหมาะสมที่ตัดสินใจลาออกตอนนี้ เพื่อช่วยลดแรง
กดดันทางการเมืองที่มีต่อนายกรัฐมนตรีในการตัดสินใจปรับ ครม.
  • โฆษกรัฐบาล เผย นายกรัฐมนตรียืนยันว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะทำให้แล้วเสร็จไม่เกินเดือน ส.ค.นี้
โดยจะเป็นผู้พิจารณาด้วยตัวเอง พร้อมกันนี้ มั่นใจว่านายกรัฐมนตรีจะคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถมาทำหน้าที่ได้ โดย
เฉพาะการเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาเศรษฐกิจในขณะนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับทั่วโลกที่ได้รับผล
กระทบจากสถานการ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลได้เตรียมมาตรการ รวมถึงโครงการต่างๆ ในการฟื้นฟูประเทศ
เอาไว้แล้ว
  • นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) มองแนวโน้มตลาดการเงินทั่วโลกในช่วงที่เหลือของปี
63 ยังคงมีความผันผวน แม้ว่าจะเริ่มเห็นเงินทุนไหลกลับเข้ามาในสินทรัพย์ต่างๆ ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากที่
สถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มดีขึ้น และเริ่มมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจกลับมา แตก
ต่างจากช่วงเดือน มี.ค.ที่ความกังวลโควิด-19 กระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน ทำให้นักลงทุนต่างเทขายสินทรัพย์ต่างๆ ทั้งตรา
สารหนี้ หุ้น และทองคำ
  • นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ระบุในจดหมายถึงซีอีโอทั่วโลกว่า เศรษฐกิจจีนยังคงมีพื้นฐานการเติบโตที่แข็งแกร่ง
ในระยะยาว ซึ่งยังคงไม่เปลี่ยนแปลงและจะไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ ประธานาธิบดีจีนยังได้ให้คำมั่นว่า จีนจะเดินหน้ายกระดับ
การปฏิรูปและเปิดกว้างให้มากกว่าเดิม พร้อมสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยยิ่งขึ้นสำหรับการลงทุนและพัฒนาของบริษัทจีน
และต่างชาติ
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารอีกครั้งในวันนี้ 5 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ
7.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านการทำข้อตกลง reverse repo ประเภทอายุ 7 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 2.2% ซึ่งการอัดฉีดสภาพ
คล่องล่าสุดในวันนี้มีเป้าหมายเพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบธนาคารให้อยู่ในระดับที่เพียงพอ
  • ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจหรือ "Beige Book" โดยระบุว่า กิจกรรมทาง

เศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวขึ้นในช่วงต้นเดือนก.ค. หลังจากรัฐต่างๆ ในสหรัฐผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เคยบังคับใช้อย่าง

เข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่แน่นอน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อโค

วิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายส่วนของประเทศ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ