นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เผยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 โดยกำหนดราคาเป้าหมายและปริมาณต่อครัวเรือนเท่ากับปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยข้าว 5 ชนิดดังนี้ 1. ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน 2. ข้าวหอมมะลินอกพื้นที่ 14,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน 3. ข้าวเจ้า 10,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน 4. ข้าวหอมปทุมธานี 11,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน และ 5 .ข้าวเหนียว 12,000 บาทต่อตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
นอกจากนั้นจะมีมาตรการเสริมเรื่องข้าว ได้แก่ 1.จะให้มีการชะลอการขายข้าว หากเป็นระยะเวลาที่ข้าวออกมากแล้วจะไปกดราคาตลาด ถ้าเกษตรกรเก็บข้าวไว้ไม่ขายจะมีเงินชดเชยให้ 1,500 บาท/ตัน ถ้าเป็นสถาบันเกษตรกรก็จะมีเงินให้ 1,500 บาท/ตันเหมือนกัน แต่สถาบันจะได้ 1,000 บาท และเกษตรกรจะได้ 500 บาท 2.เรื่องเงินกู้ โดยรัฐบาลจะช่วยรับภาระดอกเบี้ย 3% สำหรับสถาบันเกษตรกรและโรงสีที่ไปซื้อข้าวมาเก็บไว้ในช่วงที่ข้าวออกมากเพื่อไม่ทำให้ข้าวราคาตก และ 3.สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจะช่วยในเรื่องของค่าบริหารจัดการและการปรับปรุงคุณภาพ รายละไม่เกิน 20 ไร่ ไร่ละ 1,000 บาท
"ในอดีตนั้นเราแบ่งออกเป็น 2 ก้อน ก้อนที่หนึ่งก็คือต้นทุน 500 บาท กับเรื่องของค่าเก็บเกี่ยว 500 บาท ซึ่งในอดีตนั้นก็มีปัญหามาโดยตลอด เพราะค่าเก็บเกี่ยวบางครั้งเวลาเกิดภัยพิบัติ ไม่มีข้าวให้เก็บเกี่ยวก็เป็นประเด็นปัญหาว่าควรจะได้ 500 บาทหรือไม่ สุดท้ายจึงใช้วิธีเอามารวมกันให้ไร่ละ 1,000 บาท แต่ไม่เกิน 20 ไร่ ซึ่งเรียกว่าค่าบริหารจัดการและปรับปรุงคุณภาพ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกร" นายจุรินทร์ กล่าวโดยที่ประชุมได้มอบหมาย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และกระทรวงพาณิชย์ จัดทำรายละเอียดโครงการประกันรายได้ มาตรการคู่ขนาน และงบประมาณตาม พรบ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และให้กระทรวงพาณิชย์ในฐานะฝ่ายเลขานุการ นบข. นำเสนอ ครม. ต่อไป โดยทั้งหมดนี้จะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.63 เป็นต้นไปจนกระทั่งสิ้นฤดูการผลิตประมาณเดือน พ.ค.64
รายงานข่าว แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ติดตามการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้ภาครัฐได้บริหารจัดการในหลายด้าน ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์
สำหรับแนวโน้มสถานการณ์การส่งออกข้าวสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ได้คาดการณ์เป้าหมายการส่งออกข้าวปี 63 ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้ ไทยได้รับจัดสรรโควตาประมูลนำเข้าข้าวจากเกาหลีใต้ ขณะที่ญี่ปุ่นเปิดประมูลนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องจึงเป็นโอกาสการส่งออกข้าวไทย มาเลเซียและอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวในช่วงครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่ง
ด้านการส่งออกข้าว ระหว่าง วันที่ 1 ม.ค. - 8 ก.ค.63 โดยอินเดียส่งออกอันดับ 1 ของโลก 4.65 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ เวียดนาม 4.17 ล้านตัน ไทย 3.15 ล้านตัน ปากีสถาน 2.07 ล้านตัน สหรัฐฯ 1.61 ล้านตัน การค้าข้าว สำหรับราคาข้าวไทยเทียบกับประเทศผู้ส่งออกสำคัญ ก.ค. 63 ปรับตัวลด เป็นไปตามทิศทางตลาดโลกและส่วนหนึ่งจากสถานการณ์โควิด-19 ด้วย