คณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า การที่สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นในระยะนี้นั้น ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวด้านการส่งออกมากนัก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่า แม้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้น แต่เศรษฐกิจของบางประเทศในทวีปยุโรปขยายตัวขึ้นแข็งแกร่งกว่าหลายประเทศที่ใช้เงินสกุลเดียวกัน ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้มีบทบาทกับภาคการส่งออกของประเทศยุโรปมากนัก
"อย่างไรก็ตาม เราพบว่าปัจจัยที่ทำให้ภาคการส่งออกอ่อนตัวลงมาจากอัตราค่าแรงและประสิทธิภาพด้านการผลิตภายในประเทศ" คณะกรรมาธิการกล่าว โดยไม่สนใจข้อเรียกร้องของฝรั่งเศสที่ต้องการให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง
โดยนายนิโคลัส ซาร์โคซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศสกล่าวว่า สกุลเงินยูโรมีมูลค่าสูงเกินไป อีกทั้งกล่าวว่า การที่ค่าเงินยูโรแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและดอลลาร์สหรัฐ ได้สร้างความเสียหายต่อภาคการส่งออกของฝรั่งเศส
ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรายุโรปเมื่อวานนี้ สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.3638 ดอลลาร์ต่อยูโร ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.เป็นต้นมา ขณะที่สกุลเงินเยนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 167.18 ดอลลาร์ต่อยูโร
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวว่าค่าเงินยูโรยังคงแข็งค่าขึ้นในระดับปานกลาง โดยปรับตัวขึ้นเพียง 4% นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2549 เป็นต้นมา สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--