นักเศรษฐศาสตร์อเมริกันคาดสหรัฐคว่ำบาตรการค้าจีนภายในปลายปีนี้

ข่าวต่างประเทศ Wednesday July 4, 2007 16:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          สตีเฟ่น โรช นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสชาวอเมริกัน เชื่อว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหรัฐอเมริกาจะคว่ำบาตรการค้ากับจีนก่อนที่จะถึงสิ้นปีนี้
"ความท้าทายใหญ่หลวงที่สุดที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญอยู่คือ การปกป้องการค้าระหว่างสหรัฐและจีน" เขากล่าวให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซินหัว ขณะเดินทางไปยังจีนเพื่อรับตำแหน่งประธาน มอร์แกน สแตนลีย์ ภาคพื้นเอเชีย
โรช เข้าชี้แจงกับสภาคองเกรสสหรัฐ 3 ครั้งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - พฤษภาคม เกี่ยวกับการค้าสหรัฐ-จีน ซึ่งเขากล่าวว่า เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก และสะท้อนว่าสภาคองเกรสกำลังจริงจังเรื่องการใช้มาตรการกับจีน
รัฐบาลจีนได้ประท้วงอย่างหนักเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา กรณีที่สหรัฐสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ ซึ่งเป็นประเด็นความปลอดภัยด้านอาหารล่าสุดที่เกิดขึ้นระหว่าง 2 ประเทศ
"เรามีปัญหารอบด้านกับจีน และการตำหนิเรื่องการขาดดุลการค้าโดยมีสาเหตุจากจีนไม่ได้ช่วยแก้ไขอะไร" โรช กล่าว
สหรัฐขาดดุลการค้าเมื่อปีที่แล้ว 8.36 แสนล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขาดดุลการค้ากับจีนถึง 2.32 แสนล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 28% ของการค้าสหรัฐทั้งหมด อย่างไรก็ดี การขาดดุลการค้ากับประเทศคู่ค้ารายอื่นๆก็เพิ่มขึ้น 3 เท่า
โรช แสดงทัศนะว่า สหรัฐขาดดุลการค้า ไม่ใช่เพราะตกเป็นเหยื่อจากการแข่งขันที่ไม่ยุติธรรมจากจีนหรือประเทศอื่นๆ หากแต่เป็นเพราะการออมในประเทศที่ตกลง อัตราการออมสุทธิของประเทศหล่นลงทำสถิติต่ำสุดคิดเป็น 1% ของรายได้ประชาชาติช่วงปี 2547-2549
"การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นในสหรัฐ และผลกระทบอย่างรวดเร็วต่อภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเกี่ยวโยงมากขึ้นเรื่อยๆกับประเทศจีน ในฐานะศูนย์กลางซัพพลาย เชนในภูมิภาค" โรช เตือน
นอกจากนี้ เขาระบุว่า การปกป้องการค้าของสภาคองเกรส มีสาเหตุจากที่สภาคองเกรสขาดความรู้เกี่ยวกับจีน "พวกเขาต้องเข้าใจว่า เมื่อ 30 ปีก่อนจีนเกือบล้มละลาย และต้องเข้าใจว่าจีนกำลังเผชิญกับปัญหาและความท้าทายหลายประการ ซึ่งจีนต้องการความช่วยเหลือจากเราและโอกาสที่มากขึ้น มากกว่าการข่มขู่จากสหรัฐ"
เขาได้เสนอการแก้ไขปัญหาว่า สหรัฐควรฝึกแรงงานให้มากขึ้นเพื่อเผชิญกับการแข่งขันทั่วโลก และจีนควรปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของตน รวมทั้งปกป้องลิขสิทธิ์ทรัพยสินทางปัญญาอย่างเข้มงวดมากกว่านี้

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ