10 วิสาหกิจภาคตอ.-อีสานยื่น"วิษณุ"เร่งเดินหน้าโรงไฟฟ้าชุมชนปัดเอี่ยวการเมือง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday July 23, 2020 16:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ประธานวิสาหกิจชุมชน รวม 10 แห่ง จาก ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เดินทางยื่นหนังสือต่อตัวแทนของ นายวิษณุ เครืองาม (ผู้รักษาราชการแทน รมว.พลังงาน) ที่กระทรวงพลังงานเพื่อขอให้ช่วยเร่งรัดโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก(Energy for all) โดยเร็ว เนื่องจากโครงการนี้มีประโยชน์อย่างแท้จริง และ จับต้องได้ สำหรับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตั้งแต่ผู้ลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า, เกษตรกรผู้ปลูกพืชพลังงาน, ผู้ดำเนินการตัดและนำส่งพืชพลังงานถึงโรงไฟฟ้า, กองทุนหมู่บ้าน และ วิสาหกิจชุมชน ที่จะได้รับจะได้รับส่วนแบ่งจากการขายไฟฟ้าในโครงการฯ อย่างยั่งยืน โดยไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพางบประมาณจากราชการเลย ซึ่งประเมินขั้นต่ำราว 120 ล้านบาทสำหรับโครงการขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 3 เมกะวัตต์ ในช่วงระยะเวลาสัญญาขายไฟ 20 ปี (หรือ 500,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 20 ปี)

ม.ร.ว.วรากร วรวรรณ ในฐานะประธานที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชน กลุ่มรักษ์ช้างรักษาป่าตะวันออก (ปม.) กล่าวว่า วิสาหกิจนี้เป็นการรวมตัวจากเกษตรกรผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าและคนชั้นกลางที่มีใจอยากจะช่วยแก้ปัญหา มีปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงินในการเป็นทุนหมุนเวียนเพื่อความก้าวหน้าในเรื่องการแปรรูปสมุนไพรเชิงพาณิชย์ การมีหุ้นส่วนในโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เป็นโอกาสอย่างยิ่งในการทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีทุนหมุนเวียนพร้อมการลงทุนในส่วนที่เกี่ยวข้องจนสามารถทำให้วิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักษ์ช้างฯดำเนินธุรกิจเพื่อสังคมได้อย่างเข้มแข็งยั่งยืนได้ในอนาคตอันใกล้นี้

ม.ร.ว.วรากร กล่าวว่า การมายื่นหนังสือในวันนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือสนับสนุนว่าที่รมว.พลังงานคนไหน เพียงแต่มีตวามต้องการจะให้โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเดินหน้าต่อไปตามแผนที่ รมว.พลังงานคนที่แล้วได้วางไว้

"แม้โครงการนี้เกิดขึ้น และ พวกเราไม่ได้รับการคัดเลือกก็จะไม่เสียใจเลยครับ เราขอให้มีโอกาสได้เข้าแข่งขันเท่านั้น" ม.ร.ว. วรากร กล่าว

นางนฤชล พฤกษา ประธานวิสาหกิจชุมชนวิสาหกิจชุมชน กลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนสร้างอาชีพตลาดไทร จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า อำเภอชุมพวง เป็นอำเภอที่ค่อนข้างแห้งแล้ง แต่ก็ยังประสงค์จะเข้าร่วมโครงการนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา ทำไร่มันสำปะหลัง และทำไร่อ้อย ขาดทุนจากการประกอบอาชีพซ้ำซาก มีความหวังที่จะมีรายได้เพิ่มจากการปลูกหญ้าเนเปียร์เพื่อจำหน่ายแก่โรงไฟฟ้าชุมชน มีการรวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 290 คน และได้ประสานงานกับภาคีเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงโคเนื้อบ้านหนองคู่ อำเภอลำทะเมนชัย จังหวัดนครราชสีมา ที่อยู่ใกล้เคียง มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้การปลูกหญ้า และ ร่วมกันส่งหญ้าเพื่อสร้างมั่นใจกับโรงไฟฟ้าที่จะมาตั้งในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ