"อนุสรณ์"มองตลาดการเงินโลกยังผันผวนสูง แนะธปท.บริหารเงินบาทให้เหมาะสมต่อภาวะศก.

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday July 26, 2020 16:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการและผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สงครามการค้ารอบใหม่จะปะทุขึ้นอีกรอบหนึ่งก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ซึ่งการที่สหรัฐกล่าวหาไทยและไต้หวันว่าปั่นค่าเงินเพื่อเอาเปรียบทางการค้าเป็นส่วนหนึ่งของการกีดกันทางการค้า ต่อสินค้าส่งออกของไทยและไต้หวัน โดยสงครามการค้ารอบใหม่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเอาชนะในการเลือกตั้งของพรรครีพับลิกันและทีมงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แม้คาดว่าอาจจะไม่มีการดำเนินการใด ๆ ถึงขั้นที่อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบการค้าโลก แต่จะสร้างความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่อการเจรจาการค้าเฟสแรกของสหรัฐกับจีน รวมทั้งคงไม่มีการเจรจาเฟสสองก่อนการเลือกตั้งสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตามคาดการณ์ว่าจะยังมีมาตรการแข็งกร้าวทางการค้าจากสหรัฐอเมริกามากขึ้นตามลำดับ เมื่อผนวกเข้ากับปัจจัยทางเศรษฐกิจภายในที่อ่อนแอของไทย 5 เดือนสุดท้ายของปีนี้ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจอาจทรุดตัวลงได้อีก และในเบื้องต้นจะส่งผลให้ตลาดการเงินโลกมีความผันผวนสูงขึ้นอีก ซึ่งไทยก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย โดยประเทศไทยอาจถูกจับตาและถูกกล่าวหาว่าแทรกแซงค่าเงินบาทเพื่อเอาเปรียบทางการค้าสหรัฐอเมริกาได้

ทั้งนี้ ประเด็นข้อกล่าวหาเรื่องการปั่นค่าเงินดังกล่าว ไทยไม่ควรวิตกกังวลมากเกินไป และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ควรดำเนินการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมต่อภาวะเศรษฐกิจ โดยไม่ฝืนกลไกตลาดต่อไป แนวโน้มของค่าเงินบาทควรอ่อนค่าลงจากปัจจัยและตัวแปรต่าง ๆ ของเศรษฐกิจมหภาคอยู่แล้ว ซึ่งประเทศไทยมีอธิปไตยทางเศรษฐกิจ จึงสามารถดำเนินนโยบายทางการเงิน โดยเฉพาะนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนได้ตามบริบทความจำเป็นของประเทศที่เผชิญอยู่ การอ่อนค่าของเงินบาทจะช่วยประคับประคองการทรุดตัวลงของเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง โดยไม่ก่อให้เกิดแรงกดดันของเงินเฟ้อแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตามขณะนี้ประเทศไทยมีปัญหาที่น่าวิตกมากกว่า คือ ภาวะเงินฝืด (Deflation) โดยประเทศไทยจะมีภาวะเงินฝืดยาวนานแบบญี่ปุ่นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการดำเนินนโยบายสาธารณะว่าถูกทิศทางและตรงเป้าหมายหรือไม่ในระยะต่อไป การเพิ่มปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจ พร้อมกับการเร่งรัดการลงทุนโดยภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดการจ้างงานจำนวนมากจะเป็นหลักประกันขั้นต้นของการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจในช่วงต้นปีหน้า

เบื้องต้นรัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ ต้องทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม และระบบการปกครอง โดยกฎหมายเกิดขึ้นจริงในสังคมไทย คือ เป็นประเทศที่มีระบบนิติรัฐนิติธรรม (Rule of Law) อันเข้มแข็ง เนื่องจากระบบยุติธรรม ระบอบการปกครองที่ยึดถือกฎหมายและความเป็นธรรม จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็น Soft Infrastructure ทางเศรษฐกิจ เป็นความเข้มแข็งในเชิงสถาบัน ที่ช่วยทำให้เศรษฐกิจภาคการลงทุนขับเคลื่อนได้ บางครั้งมากกว่า Hard Infrastructure ที่ต้องใช้เงินงบประมาณมหาศาลในการลงทุนโครงข่ายคมนาคมเวลานี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ