BAY คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 31.40-31.75 จับตาประชุมเฟด-GDP สหรัฐฯ-ราคาทอง

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 29, 2020 14:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เผยมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.75 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดแข็งค่าเล็กน้อยที่ 31.70 บาท/ดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือน ท่ามกลางปริมาณธุรกรรมที่ค่อนข้างหนาแน่น ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 6.6 พันล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 1.3 พันล้านบาท ขณะที่เงินยูโรแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 1 ปีครึ่ง หลังสหภาพยุโรป (อียู) บรรลุข้อตกลงเรื่องกองทุนฟื้นฟูขนาด 7.5 แสนล้านยูโร นับเป็นก้าวสำคัญสู่เอกภาพทางด้านการคลังของยุโรป

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ฯ มองว่า ตลาดจะให้ความสนใจการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 28-29 ก.ค. โดยนักลงทุนคาดว่าเฟดจะให้คำมั่นที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0-0.25% ต่อไปและประเมินเศรษฐกิจในเชิงลบมากขึ้นท่ามกลางความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐฯ รวมถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการใช้มาตรการด้านการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอาจมีผลต่อบรรยากาศการลงทุนด้วยเช่นกัน หลังจีนสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตูเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ซึ่งสั่งปิดสถานกงสุลของจีนในเมืองฮูสตัน

อนึ่งการเหวี่ยงตัวขึ้นของราคาทองคำสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์จากหลากหลายปัจจัยหนุน นำโดยการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่แท้จริง (Real Yields) ของสหรัฐฯ จะเพิ่มความผันผวนให้กับค่าเงินบาทได้อีกทางหนึ่ง

สำหรับปัจจัยในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การดูแลอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้มุ่งหวังที่จะบิดเบือนค่าเงินเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้าและการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทเป็นไปได้ทั้ง 2 ทิศทางตามเงินทุนเคลื่อนย้ายที่ผันผวน ทางด้าน กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดการส่งออกเดือนมิถุนายนหดตัว 23.17% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การนำเข้าลดลง 18.05% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 1.61 พันล้านดอลลาร์ และสำหรับในช่วงครึ่งปีแรก การส่งออกลดลง 7.09% ส่วนการนำเข้าหดตัว 12.62% และเกินดุลการค้า 1.07 หมื่นล้านดอลลาร์ เราประเมินว่าการส่งออกของไทยจะยังเผชิญแรงกดดันจากภาวะซบเซาของอุปสงค์ในประเทศคู่ค้า อีกทั้งการนำเข้าที่ฟื้นตัวช้ายังคงสะท้อนแนวโน้มกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการส่งออกที่อ่อนแอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ