นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.44/46 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็กน้อย จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.47 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทยังยังแข็งค่าขึ้นเช่นเดียวกับสกุลเงินหลักในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินในช่วงนี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทยังมีโอกาสจะผันผวนในทิศทางอ่อนค่าได้ เนื่องจากปัจจัยกดดันต่อค่าเงินมีมากกว่าปัจจัยบวก ไม่ว่าจะเป็นการกลับ มาระบาดของโควิดรอบ 2, การเมืองในประเทศ ตลอดจนตัวเลขเศรษฐกิจไทยที่ทยอยออกมาในทิศทางไม่ดีนัก
ขณะเดียวกัน คงต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะออกมาใน เช้าวันพรุ่งนี้ เพราะแม้ตลาดจะคาดว่าคงดอกเบี้ย แต่ต้องติดตามว่าจะมีการให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐอย่างไร
"ต้องรอดูว่า FOMC จะมี comment อะไรออกมาเซอร์ไพรส์หรือไม่ ถ้าไม่มีดอลลาร์ก็อาจจะกลับไปแข็งค่า เพราะที่ผ่านมาก็ ขายทำกำไรกันไปเยอะแล้ว จึงมีโอกาสที่จะมีแรงซื้อทำกำไรได้" นักบริหารเงินระบุ
นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35 - 31.60 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.94 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.12 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1750 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1718 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,338.35 จุด ลดลง 2.57 จุด (-0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 56,111 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 740.19 ลบ.(SET+MAI)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) คาดทิศทางเงินบาทสัปดาห์นี้ มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-31.75 บาท/
- ม.หอการค้าไทย ประเมินมูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ -9.6% หดตัวสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยคาดว่าการส่งออกในช่วง
- ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือน มิ.ย.63 อยู่ที่ 83.02 หดตัว -17.66% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี
- คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการเสนอชื่อ "นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" เป็นผู้ว่าการธนาคารแห่ง
- ธนาคารกลางจีน (PBOC) เดินหน้าอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบธนาคารในวันนี้ จำนวน 3 หมื่นล้านหยวน (ประมาณ
- นักลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก จับตาผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ
(FOMC) ซึ่งจะมีการแถลงในวันพุธที่ 29 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่
ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมครั้งนี้ และเชื่อว่าเฟดจะยืนยันการคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปในช่วงหลายปีข้างหน้า