ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.41/42 แข็งค่าขานรับรมว.คลังใหม่ คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.35-31.55

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 5, 2020 17:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.41/42 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.51/53 บาท/ดอลลาร์

ตลอดทั้งวันเงินบาทค่อนข้างเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบ แต่เริ่มแข็งค่าขึ้นหลังจากมีข่าวการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่ง รมว.คลัง คนใหม่ ซึ่งถือว่าตลาดค่อนข้างขานรับกับผู้ที่มาดำรงตำแหน่ง รมว.คลังคนใหม่ เนื่องจากมีประสบการณ์ทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดนี้มาแล้ว และเชื่อว่าจะทำงานร่วมกับทีมเศรษฐกิจได้อย่างราบรื่น

"ช่วงเช้าบาทยังทรงๆ แต่หลังจากแต่งตั้ง รมว.คลังคนใหม่ บาทก็แข็งค่าขึ้น ตลาดขานรับดี มองว่านายอาคม มีความน่าเชื่อ ถือ และน่าจะทำงานร่วมกับรัฐบาลชุดนี้ได้อย่าง smooth" นักบริหารเงินระบุ

อย่างไรก็ดี สำหรับปัจจัยต่างประเทศในช่วงนี้ยังไม่ค่อยมีปัจจัยใหม่เข้ามา เป็นเพียงรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ส่วนกรณีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ติดโควิด-19 นั้น เชื่อว่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นและตลาดทองคำได้มากกว่าตลาดเงิน

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35 - 31.55 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.62 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.53/55 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1754 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1731/1735 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,242.99 จุด เพิ่มขึ้น 5.45 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 39,486 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,164.15 ลบ.(SET+MAI)
  • เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ "อาคม เติมพิทยาไพสิฐ" เป็นรัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงการคลัง คนใหม่
  • กระทรวงพาณิชย์ เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือนก.ย.63 หดตัว -0.70% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการลด
ลงของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นสำคัญที่ปรับตัวลดลงตามตลาดโลก พร้อมประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อไตรมาส 4 ปีนี้จะหดตัวเล็กน้อยที่ -
0.34% โดยทั้งปี 63 ยังให้ประมาณการเงินเฟ้อไว้ในกรอบเดิมที่ -1.5 ถึง -0.7% หรือค่ากลางที่ -1.1%
  • กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 (ศบศ.) ที่มี
นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการบริโภค ผ่าน 2 โครงการ คือ ชิมช้อปใช้ และ
ช้อปช่วยชาติ หลังจากที่ได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงานแล้ว
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เริ่มเผยแพร่ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อปล่อยใหม่ (New Loan Rate: NLR) ของ
ภาคธุรกิจ ซึ่งข้อมูลนี้ จะช่วยให้ภาคธุรกิจใช้อ้างอิงเพื่อขอสินเชื่อใหม่ได้ดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงประเภทต่าง ๆ เช่น Minimum
Loan Rate (MLR) ที่เผยแพร่อยู่ในปัจจุบัน
  • 50 บริษัทสมาชิกส.อ.ท.ร่วมสนับสนุนมาตรการการชำระหนี้ให้แก่คู่ค้าภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้ตรวจรับสินค้าหรือ
บริการครบถ้วนและได้รับเอกสารเรียบร้อยแล้ว ถือเป็นหนึ่งในกลไกการแก้ไขและบรรเทาปัญหาสภาพคล่องให้แก่ภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ
SMEs ช่วยลดความเหลื่อมล้ำอำนาจ การต่อรองระหว่าง SMEs และบริษัทขนาดใหญ่ เป็นระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม
ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
  • ประธานกลุ่ม Business Twenty (B20) ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของซีอีโอระดับสูงจากชุมชนธุรกิจทั่วโลกในกลุ่มประเทศ
สมาชิก G20 กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังตกอยู่ในสภาวะที่เลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ ผู้กำหนดนโยบายและผู้นำธุรกิจทั้งหลายจึงมีความ
ท้าทายในการทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นได้อย่างเร่งด่วน
  • แพทย์ประจำทำเนียบขาว ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีอาการดีขึ้น และจะสามารถออกจากโรง
พยาบาลได้ในจันทร์ที่ 5 ต.ค. หากมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ
  • สมาคมนักเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งสหรัฐ เปิดเผยว่า ผลสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ ได้ปรับลดตัวเลขคาด
การณ์การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ของปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะอัตราการขยายตัวจะอยู่ที่ 6.8% เหลือเพียง 4.9% โดยมี
ความกังวลว่าการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ จะทำให้คนที่ว่างงานหางานใหม่ได้ยาก เพราะตำแหน่งงานที่หายไปเมื่อช่วงโควิด-19
ส่วนหนึ่งจะไม่กลับมาอีก
  • นักวิเคราะห์จากธนาคารเครดิต สวิส แนะนำให้นักลงทุนซื้อหุ้นและพันธบัตรในตลาดเอเชีย มากกว่าที่จะแนะนำให้ลงทุนใน

ตลาดสหรัฐ โดยระบุว่า ตลาดเอเชียยังมีแนวโน้มที่สดใส ในขณะที่ตลาดสหรัฐอาจเผชิญความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการเลือก

ตั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ