ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.21 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า นลท.จับตาการชุมนุม 14 ต.ค.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Monday October 12, 2020 17:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.21 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 31.11 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.02-31.22 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าไปตามทิศ ทางของเงินยูโรและเงินหยวน

"ช่วงบ่ายบาทอ่อนค่าตามเงินยูโรและเงินหยวน หลังมีแรงเทขายออกมาในตลาด" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพุธไว้ที่ 31.10-31.30 บาท/ดอลลาร์ ตลาดจับตาดู สถานการณ์การชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มคณะราษฎร ในวันที่ 14 ต.ค.

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 105.51 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 105.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.1800 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1816 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,273.43 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด, +0.50% มูลค่าการซื้อขาย 46,573.18 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 777.40 ล้านบาท (SET+MAI)
  • นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำทีมเศรษฐกิจ ประกอบไปด้วย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน รมว.คลัง และ
รมช.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า วันนี้ได้นำทีมเศรษฐกิจมา เพื่อสร้างความมั่นใจในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
ให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม และที่ประชุมครม. ได้อนุมัติหลายโครงการ ได้แก่ มาตรการเติมเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, มาตรการ "คนละครึ่ง"
และมาตรการ "ช้อปดีมีคืน" และหลังจากนี้จะมีมาตรการเฉพาะกลุ่มทยอยออกมา
  • ที่ประชุม ครม.เห็นชอบโครงการ "ช้อปดีมีคืน" ซึ่งเป็นโครงการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในปีภาษี 2563 สำหรับ
ค่าซื้อสินค้าและบริการให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันไม่เกิน 30,000 บาท โดยผู้มีเงินได้ที่จะใช้สิทธิต้องไม่
ได้เป็นผู้ใช้สิทธิในโครงการ "คนละครึ่ง" หรือบัตรสวัสดิการของรัฐ
  • นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของอังกฤษเตือนว่า อังกฤษยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงมาก และอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อก
ดาวน์ทั่วประเทศรอบที่ 2 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงอยู่ในขั้นวิกฤต
  • TraXasia ผู้เชี่ยวชาญด้านการโฆษณาในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เปิดเผยรายงานแนวโน้มนักท่องเที่ยวประจำไตร
มาส 4 ปี 2563 ชี้การท่องเที่ยวระยะใกล้จะได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคนิวนอร์มอล ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวของภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ โดยจีนจะยังคงเป็นตลาดนักท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาค ตามมาด้วยเกาหลีใต้ ขณะไทยติดโผจุดหมายปลายทาง
การท่องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 4 ปีนี้
  • ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ส่งจดหมายถึงธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ เพื่อสอบถามถึงความพร้อมสำหรับการใช้
นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หลังจาก BoE ได้ส่งสัญญาณพร้อมใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ หากมีความจำเป็น ในการประชุมเมื่อวันที่
17 ก.ย.ที่ผ่านมา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ