ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 31.16 แข็งค่าจากช่วงเช้า จับตาปัจจัยตปท. คาดกรอบพรุ่งนี้ 31.10 - 31.25

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 14, 2020 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.16 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.23 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทในช่วงเย็นปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากช่วงเช้า ในขณะที่ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 31.15-31.28 บาท/ ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะมีการชุมนุมทางการเมืองในประเทศแต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อค่าเงินให้อ่อนค่าแต่อย่างใด คาดว่านักลงทุนให้ความสำคัญกับปัจจัย ต่างประเทศมากกว่า ในเรื่องของการประชุมผู้นำยุโรปวันที่ 15-16 ต.ค.นี้ ประเด็นความคืบหน้า Brexit และมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการโหวตในที่ประชุมวุฒิสภาสัปดาห์หน้า

"บาทตอนเย็นกลับมาแข็งค่า คิดว่าข่าวม็อบอาจจะไม่ได้ส่งผลกับตลาดเงินมากเท่าตลาดหุ้น นักลงทุนน่าจะให้ความสำคัญกับ ปัจจัยต่างประเทศมากกว่า เช่น มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ และการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป ที่รอดูว่าจะมีความคืบหน้าเรื่อง Brexit อย่างไร" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.10 - 31.25 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 105.44 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 105.10/60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1732 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1720/1755 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,263.99 จุด ลดลง 9.44 จุด (-0.74%) มูลค่าการซื้อขาย 51,803 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,664.99 ลบ.(SET+MAI)
  • รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง เพื่อมอบนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
โดยรับทราบการรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และแนวโน้มของเศรษฐกิจในปี 2564 ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ
โควิด-19 โดยเฉพาะภาคการส่งออก ภาคบริการ และการท่องเที่ยว โดยคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่ภาครัฐจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อเยียวยาและช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่างๆ อย่างเร่งด่วนเพิ่มขึ้น
  • รมว.คลัง กล่าวถึงเหตุชุมนุมทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า ในส่วนของกระทรวงการ
คลัง ยังต้องเดินหน้าดูแลเรื่องศักยภาพและความมั่นคงในภาพรวมเศรษฐกิจของไทย เนื่องจากวันนี้เศรษฐกิจไทยยังคงได้รับผลกระทบจาก
การแพร่ระบาดของโควิด-19
  • ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการแจกของขวัญปีใหม่ 2564 จะเน้นไปยังกลุ่มประชาชนที่ยังไม่ได้รับการช่วย
เหลือในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคนละส่วนกับมาตรการช้อปดีมีคืน และคนละครึ่ง แต่ต้องขอเวลาศึกษารายละเอียดก่อน โดยเบื้องต้นจะเจาะ
กลุ่มผู้ว่างงาน ซึ่งขณะนี้มีตัวเลขอยู่ราว 1 ล้านคนที่จะเข้าไปช่วยก่อน
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมอนุญาตให้สามารถเปิดบัญชีเงินตราต่างประเทศ (FCD) โดยมีเงื่อนไขน้อยลง
เช่น การขยายเพดานการเปิดบัญชีให้สามารถโอนเงินในบัญชี FCD ระหว่างกันในประเทศได้ รวมถึงหากไม่มีภาระหรือธุรกรรมรองรับก็
สามารถเปิดบัญชี FCD ได้ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นการผ่อนคลายหลักเกณฑ์ในเฟสแรกช่วงต้นปี 64
  • ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่าการปล่อยสินเชื่อซอฟท์โลนของธปท.ในช่วงที่ผ่านมาทำได้ช้า และไม่สามารถ
ช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบได้ทั่วถึง ซึ่งอาจมาจากแนวทางและเกณฑ์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อซอฟท์โลน ทำให้ผู้ประกอบการ
รายเล็กยังไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อซอฟท์โลนของธปท.ได้ ดังนั้น ธปท.เตรียมพิจารณาปรับปรุงแนวทางและเกณฑ์ขอสินเชื่อดังกล่าวใหม่อีก
ครั้ง เพื่อทำให้สามารถปล่อยสินเชื่อดังกล่าวได้มากขึ้น และกระจายไปสู่ผู้ประกอบการได้ครอบคลุมมากขึ้น
  • กลุ่มคณะราษฎร 2563, แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มประชาชนปลดแอก นัดชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์
ประชาธิปไตย และเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าไปยังทำเนียบรัฐบาล เพื่อต้องการยื่น 3 เรียกร้องให้รัฐบาล ประกอบด้วย 1.นายกรัฐมนตรีต้องลา
ออก 2.เปิดสภาสมัยวิสามัญเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 3.ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยได้เกิดเหตุกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่ม
คณะราษฎร 2563 กับกลุ่มมวลชนจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และผู้ที่สวมใส่เสื้อเหลืองมารอรับเสด็จริมถนนราชดำเนิน
กลาง
  • ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ประกาศคงนโยบายการเงินไม่เปลี่ยนแปลงในวันนี้ตามที่ตลาดคาดกันไว้ พร้อมทั้งระบุว่าจะ
ยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อไปอีก
  • กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์เปิดเผยรายงานเบื้องต้นในวันนี้ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(GDP) ในไตรมาส 3/2563 หดตัวลง 7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะหดตัว 6.8%
  • กรรมาธิการตลาดเดียวของสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยกับสถานีวิทยุบีเอฟเอ็ม บิซิเนสว่า EU ต้องการให้มีข้อตกลงการ
ค้าหลังอังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แต่ก็เตรียมพร้อมรับกรณีที่ไม่มีข้อตกลง (no-deal Brexit)
  • รายงานวิเคราะห์ฉบับใหม่ของ PwC แสดงให้เห็นว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนมีศักยภาพในการกระตุ้นผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน
ประเทศ (GDP) ได้ถึง 1.76 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐทั่วโลกในทศวรรษหน้า
  • ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐเปิดเผยว่า วุฒิสภาสหรัฐจะโหวตร่างมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชน

และภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ