(เพิ่มเติม) พาณิชย์ เผย CPI ก.ค.50 เพิ่มขึ้น 1.7%,Core CPI เพิ่ม 0.8%

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday August 1, 2007 12:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงพาณิชย์ แถลงว่าดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI)ในเดือนก.ค.50 อยู่ที่ระดับ 117.3 ไม่เปลี่ยนแปลงจาก มิ.ย.50 แต่เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.49 โดยเป็นอัตราที่ต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 47 ที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 1.2% เนื่องจากผลกระทบเงินบาทแข็งค่าที่ทำให้นำเข้าน้ำมันในราคาที่ลดลง สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน(Core CPI) ไม่รวมหมวดสินค้าอาหารสดและพลังงานในเดือน ก.ค.50 อยู่ที่ระดับ 105.6 สูงขึ้น 0.1% จากเดือน มิ.ย.50 และเพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค.49 ส่วน CPI เฉลี่ย 7 เดือนแรกของปีนี้(ม.ค.-ก.ค.)เพิ่มขึ้น 2.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นายการุณ กิตติสถาพร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า CPI ในเดือนก.ค.50 เมื่อเทียบกับมิ.ย. 50 โดยเฉลี่ยไม่เปลี่ยนแปลง แม้หมวดอาหารเกือบทุกประเภทจะมีราคาสูงขึ้น แต่หมวดผักสด ราคาลดลงค่อนข้างมาก ทำให้ดัชนีราคาหมวดอาหารและเครื่องดื่มลดลงเล็กน้อย ทั้งนี้ ดัชนีหมวดอาหารและเครื่องดื่มในเดือนก.ค. 50 อยู่ที่ 124.4 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5% แต่ลดลงจากเดือน มิ.ย. 0.1% ขณะที่ดัชนีหมวดอื่นที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มเท่ากับ 113.1 ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.3% แต่ไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเทียบกับเดือนมิ.ย. 50 เป็นเพราะการบริโภคยังคงชะลอตัว ทำให้ดัชนีค่าที่พักอาศัย ซึ่งมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายที่สูงปรับตัวลดลง สำหรับสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวสารเหนียว เนื้อสุกร ไก่สด ไข่ และผลิตภัณฑ์นม ส่วนสินค้าอื่นที่ราคาลดลง ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิงและกระแสไฟฟ้า นายการุณ กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อล่าสุดในเดือน ก.ค.50 อยู่ในระดับต่ำถึง 1.7% จากผลกระทบภาวะเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ราคานำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงลดลง และระดับราคาผักสดก็ลดลง "ราคาผักลดลง ราคาน้ำมันก็ลดลง 2 ตัวนี้เป็นตัวหลัก ไม่เกี่ยวกับดีมานด์ว่าคนไม่ซื้อของ"นายการุณ กล่าว ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า อัตราเงินเฟ้อทั้งปี 50 จะยังอยู่ในระดับ 1.5-2.5% ตามที่คาดการณ์ไว้ ส่วนแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในช่วงไตรมาส 3/50 จะใกล้เคียงไตรมาส 2/50 และอาจสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงไตรมาส 4/50 "เงินเฟ้อไตรมาส 3 คาดว่าจะใกล้เคียงกับเดือนนี้(ก.ค.) แต่จะสูงขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 4 เพราะไตรมาส 4 ปีก่อนมีฐานต่ำ แต่คงจะไม่สูงขึ้นไปอย่างผิดปกติ ซึ่งทั้งปีน่าจอยู่ที่ 1.5-2.5%" นายการุณ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ