นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 31.15 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 31.19 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.15-31.19 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงิน ในภูมิภาคเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน
"บาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่างวันค่อนข้างทรงตัว ธุรกรรมเบาบางกว่าปกติ คาดนักลงทุนรอดูผลการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีสหรัฐว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศเริ่มคลายความตึงเครียดลงไป" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.10-31.25 บาท
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 104.80 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 104.73 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1641 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1637 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,202.16 จุด เพิ่มขึ้น 7.21 จุด, +0.60% มูลค่าการซื้อขาย 40,738.51 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 767.56 ล้านบาท(SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ต.ค.63 อยู่ที่ระดับ 45.4 ลดลงจากเดือนก.ย.63
ซึ่งอยู่ที่ระดับ 47.5 ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรก หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้น 5 เดือนติดต่อกัน จากองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อ การผลิต และผล
ประกอบการที่ลดลงเป็นสำคัญ
- กระทรวงพาณิชย์ เผยการที่สหรัฐฯ ตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ของไทย โดยมีสาเหตุจากการเปิดตลาดสินค้า
และบริการประเด็นการเปิดตลาดสินค้าเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ เนื่องจากสหรัฐฯ เห็นว่าการเปิดตลาดสินค้าของไทยนั้นไม่อยู่ในระดับที่เท่า
เทียมและสมเหตุสมผล แม้ไทยชี้แจงอย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบด้านสุขภาพและสุขอนามัยของประชาชน โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 30 ธันวาคม
2563 เป็นต้นไป โดยการตัดสิทธิฯ GSP ดังกล่าวมีสินค้าจำนวน 231 รายการ เป็นสินค้าที่มีการใช้สิทธิฯ จริงในปี 2562 จำนวน 147
รายการ คิดเป็นภาษีที่ต้องกลับไปเสียในอัตราปกติมูลค่าประมาณ 19 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 600 ล้านบาท
- ธนาคารกลางจีนอัดฉีดเงินสด 5 หมื่นล้านหยวน (7.46 พันล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดผ่านทางข้อตกลง reverse
repos ประเภทอายุ 7 วัน ที่อัตราดอกเบี้ย 2.2% โดยมีเป้าหมายที่จะรักษาสภาพคล่องในระบบให้เพียงพอ
- นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 0.1% ซึ่งเป็น
ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจุบันที่ระดับ 0.25% ในการประชุมวันพรุ่งนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของ
มาตรการล็อกดาวน์ที่รัฐบาลประกาศใช้ก่อนหน้านี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19