นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 30.30 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิด ตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 30.27 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 30.19-30.36 บาท/ดอลลาร์
"บาทวันนี้เคลื่อนไหวผันผวน ก่อนที่จะปิดตลาดอ่อนค่าตามภูมิภาค เนื่องจากก่อนหน้านี้มีปัจจัยบวกเรื่องการพัฒนาวัคซีนโควิด- 19 แต่พอไม่มีความคืบหน้า นักลงทุนก็เทขายทำกำไร" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 30.20-30.35 บาท/ดอลลาร์ โดยคืนนี้นักลงทุนรอ ฟังสุนทรพจน์ของประธานเฟดต่อที่ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 105.37 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 105.44 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.1811 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.1777 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,336.31 จุด ลดลง 9.03 จุด, -0.67% มูลค่าการซื้อขาย 97,248.89 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 2,246.13 ล้านบาท (SET+MAI)
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้กำหนดแนวทางการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 โดยให้สถาบันการเงินสามารถ
จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของปี 2563 ได้ไม่เกินอัตราการจ่ายในปี 2562 และต้องไม่เกิน 50% ของกำไรสุทธิของปี 2563
สอดคล้องกับแนวทางของผู้กำกับดูแลสถาบันการเงินต่างประเทศหลายแห่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้น ผู้ฝากเงิน และลูกหนี้ของสถาบันการ
เงินในระยะยาว หลังพิจารณาจากแผนบริหารจัดการเงินกองทุนและผลประเมิน stress test ของสถาบันการเงิน ในช่วงปี 2563-
2565 พบว่าสถาบันการเงินยังคงมีเงินกองทุนและเงินสำรองเพียงพอรองรับสถานการณ์เลวร้ายจากการระบาดของโรคโควิด-19
- รมว.คลัง กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจไทยสไลด์ตัวลงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ส่วน
โอกาสการฟื้นตัวจะเป็นในรูปแบบวีเชฟหรือยูเชฟนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แตที่สำคัญคือเมื่อเศรษฐกิจที่สไลด์ตัวลงไปแล้วจะต้องลุกขึ้นให้ได้
- ผู้ว่า ธปท. เชื่อว่าประเทศไทยจะผ่านพ้นวิกฤติรอบนี้ไปได้ เนื่องจากเสถียรภาพของระบบการเงินในรอบนี้ดีกว่าในช่วงปี
40 ตลอดจนระบบธนาคารพาณิชย์ก็มีความเข้มแข็ง สภาพคล่องยังอยู่ในระดับสูง เงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) อยู่ที่ระดับ 19% ซึ่ง
ถือว่าสูงเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาค รวมทั้งหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ยังอยู่ในระดับต่ำที่ 3% จากในช่วงปี 40 ซึ่งสูงถึงระดับ 40%
- ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน พ.ย.63 อยู่ที่ระดับ 58.50 จุด ปรับตัวลดลง 0.81 จุด หรือ 1.37%
จากระดับ 59.31 จุดในเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา และเป็นการปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนก.ย.63 เนื่องจากมีแรงขายทองคำจากธนาคาร
กลางของประเทศต่างๆ ทั่วโลก, ความคืบหน้าการพัฒนาและคิดค้นวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19, สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก,
สถานการณ์การเลือกตั้งในสหรัฐฯ และแรงขายเก็งกำไรของกองทุน
- ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนต.ค. ปรับตัวดีขึ้น
แม้ว่าผู้บริโภคจะมีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้บริโภคได้รับผลทางจิตวิทยาในเชิงบวก
หลังจากรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่องหลายมาตรการ ประกอบกับราคาพืชผลเกษตรหลายรายการปรับ
ตัวดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนเพิ่มมากขึ้น
- รัฐมนตรีการเคหะของอังกฤษ เปิดเผยว่า อังกฤษหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป
(Brexit) ได้ในเร็วๆ นี้
- อินโดนีเซียกำลังผลักดันการทำข้อตกลงการเดินทางทางอากาศระหว่างกันแบบไม่ต้องกักตัว (Travel Bubble) กับ
ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประธานาธิบดีโจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย เปิดเผยว่าจะมีการประกาศเกี่ยวกับข้อตกลงดัง
กล่าวในการประชุมสุดยอดของกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งกำลังมีขึ้นขณะนี้