ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 30.38/43 อ่อนค่าต่อเนื่อง นลท.จับตาธปท.ออกมาตรการดูแลเงินบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 19, 2020 17:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.38/43 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากช่วง เช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.32 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเย็นนี้ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงเช้า เป็นผลจากที่ช่วงนี้เงินดอลลาร์สหรัฐกลับมาแข็งค่า ประกอบกับเป็นผลจากตลาดรับ ข่าวที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ระบุล่าสุดถึงความกังวลต่อสถานการณ์เงินบาทแข็งค่าเร็ว ซึ่งกำลังเตรียมดำเนิน มาตรการที่เหมาะสมเพื่อดูแลค่าเงินบาท

"ต้องติดตามว่าพรุ่งนี้ ธปท.จะมีการให้ความเห็นเรื่องมาตรการดูแลเงินบาทที่แข็งค่าอย่างไร" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.20 - 30.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.92 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 103.86 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1730 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1893 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,369.42 จุด เพิ่มขึ้น 4.83 จุด (+0.35%) มูลค่าการซื้อขาย 82,325 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 988.55 ลบ.(SET+MAI)
  • ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.อยู่ระหว่างพิจารณามาตรการเหมาะสมมาดูแลค่าเงินบาทที่
แข็งค่าเร็ว ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ธปท.เข้าไปดูแลเงินบาทอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เงินทุนสำรองระหว่าง
ประเทศเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการที่ ธปท.เข้าไปซื้อดอลลาร์ เพื่อช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทด้วย
  • กระทรวงการคลัง มั่นใจว่า การยืนยันคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของ
บริษัท S&P ครั้งนี้ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีต่อเศรษฐกิจไทยที่กำลังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ
สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินนโยบายเพื่อการฟื้นฟูและรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่อไป
  • เลขาธิการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เผยจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบ
ให้ระบบเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นในช่วงต้นปี 2564 กบข. เตรียมจะจัดทำกรอบการลงทุนในระยะยาว 5-
10 ปี ซึ่งเป็นการปรับกรอบการลงทุนครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมี เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
  • สถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) คาดการณ์ว่า หนี้สินทั่วโลกจะพุ่งแตะ 277 ล้านล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็น
ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ภาครัฐและเอกชนมีค่าใช้จ่ายมากขึ้น โดยนับถึงเดือนก.ย.ที่
ผ่านมานั้น หนี้สินทั่วโลกอยู่ที่ 272 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว เพิ่มขึ้น 15 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
  • ผลการวิจัยจากสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน (USCBC) เปิดเผยว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าและภาวะทางธุรกิจที่ไม่แน่นอน
นั้น ได้ส่งผลให้สหรัฐส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนลดลงอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี จีนยังคงเป็นประเทศที่สหรัฐส่งออกมาก
ที่สุด
  • นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวในระหว่างกล่าวสุนทรพจน์เปิดงาน APEC CEO Dialogues Malaysia 2020 เรียกร้อง
ให้สมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปค (APEC) ยึดมั่นเป้าหมายหลักของกลุ่มในด้านการค้าและการลงทุนที่เสรี
และเปิดกว้าง คือการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
  • ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม APEC CEO Dialogues ก่อนที่การประชุมกลุ่มความร่วมมือ
ทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) จะจัดขึ้นในวันศุกร์นี้ โดยได้แสดงความหวังว่า ประชาคมธุรกิจในเอเชีย-แปซิฟิกจะร่วมมือกันส่ง
เสริมการเปิดกว้างและการพัฒนา รวมทั้งหาทางผลักดันการเติบโตโดยใช้การนวัตกรรมเป็นแรงขับเคลื่อน และหวังว่าประเทศเอเชีย-
แปซิฟิกจะเป็นหุ้นส่วนกันในความร่วมมือที่จะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และบรรลุเป้าหมายการมีความรับผิดชอบต่อสังคม
  • นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่ภาวะเตือนภัยขั้นสูงสุด หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่สูงถึง
2,189 รายในวันพุธที่ 18 พ.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุด และเป็นครั้งแรกที่ตัวเลขดังกล่าวทะลุ 2,000 รายนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นใน
ประเทศ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ