ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.23 แข็งค่าตามตลาดโลก หลังดอลล์อ่อน-ลุ้นศาลตัดสินคดีนายกฯ

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 2, 2020 08:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 30.23 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด ตลาดเย็นวานนี้ที่ 30.26 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังมี ปัจจัยหนุนจากความคืบหน้ามาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ของสหรัฐ และความคืบหน้าใน การพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทยาในสหภาพยุโรป

"บาทแข็งค่าจากท้ายตลาดวานนี้ตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์อ่อนค่าจากปัจจัยเรื่องมาตรการคลังของสหรัฐ และ ความคืบหน้าเรื่องวัคซีนทางฝั่งยุโรป" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับปัจจัยในประเทศ ตลาดรอดูวันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในคดีการใช้บ้านพักหลวง และท่าทีการชุมนุมของกลุ่มราษฎร

"ตลาดมองว่านายกฯ น่าจะรอด แต่รอดูกลุ่มชุมนุมว่าจะทำอย่างไรต่อไป" นักบริหารเงิน กล่าว

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างประเทศจากผู้ค้าทองคำ หลังราคาปรับตัวขึ้นมา 38 ดอลลาร์/ออนซ์

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 30.20-30.30 บาท/ดอลลาร์

THAI BAHT FIX 3M (1 ธ.ค.) อยู่ที่ระดับ 0.36937% ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ระดับ 0.38565%

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ 104.27 เยน/ดอลลาร์ จากสัปดาห์ก่อนที่ 104.28 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ 1.2067 ดอลลาร์/ยูโร จากสัปดาห์ก่อนที่ 1.1977 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.263 บาท/ดอลลาร์
  • ศาลรัฐธรรมนูญสั่งคุมเข้มรับอ่านคำวินิจฉัย คดี"นายกฯ" พักบ้านหลวงของทหาร ด้าน บช.น.วางกำลัง 3 กองร้อย ดู
ความปลอดภัยให้ศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมส่งกำลังคุ้มกันตุลาการศาลฯ
  • กรมเจรจาการค้าฯ เผยผลศึกษาทำเอฟทีเอไทย-อียู มีประโยชน์สูงต่อจีดีพี การค้า ส่งออก และรายได้เกษตรกร ช่วยลด
คนจน เตรียมส่งสรุปถึง 'จุรินทร์' ก่อนนำเข้า กนศ. และ ครม.อนุมัติไทยเข้าร่วมเจรจา ต้นปี 64
  • บีโอไอหนุนอุตสาหกรรมการแพทย์ เล็งปรับเงื่อนไขดึงลงทุน ดันไทยสู่เมดิเคิล ฮับ ชูเอกชนพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จาก
ใบยาสูบ คาดเห็นความชัดเจนพร้อมทดลองในมนุษย์ได้ในกลางปี 64
  • คนละครึ่งเฟส 2 มาแล้ว คลังชงศบศ.ต่ออายุมาตรการเริ่มต่อเนื่องทันทีตั้งแต่ 1 ม.ค.2564 พร้อมเปิดลงทะเบียนกลุ่ม
ใหม่ปลายเดือนธ.ค. คาดว่าไม่ถึง 10 ล้านคน ส่วนผู้ได้สิทธิ์เดิมเตรียมกดปุ่ม 'ยืนยันการใช้สิทธิ์' เพื่อรับเงินอุดหนุนต่อ
  • ครม. ขยายสิทธิ ร้านค้ากองทุนหมู่บ้าน/ชุมชนเมือง เข้าโครงการ "คนละครึ่ง" เห็นชอบ 2 โครงการเงินกู้ เพิ่ม
ศักยภาพเครื่องจักรปรับปรุงสภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว และพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย นายกฯ เตือน พวกฉวยโอกาสโกงประชาชนผ่าน
โครงการคนละครึ่ง สั่งคลังตรวจสอบ หากพบผิดซ้ำซาก เลิกโครงการ
  • ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ได้เร่งเดินหน้าขยายบริการตัวแทน Banking Agent ต่อเนื่อง ล่าสุดจับ
มือกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริษัทในกลุ่มธุรกิจซีพีออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เพื่อขยายบริการรับฝากเงินสดแก่ลูกค้าธนาคาร
กรุงเทพ สามารถนำฝากเงินสดเข้าบัญชีสะสมทรัพย์และกระแสรายวันได้อย่างสะดวก แม้จะอยู่นอกเวลาให้บริการของสาขาธนาคาร โดย
ลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ซึ่งมีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 12,500 สาขา
  • ไฟเซอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทยาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ และ BioNTech ซึ่งเป็นบริษัทยาของเยอรมนี แถลงว่า ทางบริษัทได้ยื่น
เรื่องต่อสำนักงานยาแห่งยุโรป (EMA) ในวันนี้ เพื่อขออนุมัติการจำหน่ายวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของทางบริษัทเป็นกรณีฉุกเฉิน
  • องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้ โดย
ได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 รวมทั้งการที่รัฐบาลและธนาคารกลางทั่วโลกพากันออกมาตรการ
กระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อลดผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19
  • รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เตรียมหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ในวันนี้ เกี่ยวกับการอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณ ซึ่ง
จะช่วยหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐบาล (ชัตดาวน์) รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ วงเงิน 9.08 แสนล้านดอลลาร์ ตามข้อ
เสนอของวุฒิสภา ซึ่งจะเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
  • ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต
ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 56.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2557 จากระดับ 53.4 ในเดือนต.ค.
  • สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 57.5 ในเดือนพ.
ย. จากระดับ 59.3 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2561 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 58.0
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.)
เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และหันไปซื้อสกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์เสี่ยง เช่นยูโรและปอนด์ หลังมีความคืบหน้า
ในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 และความหวังเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาทองคำดิ่งลง
อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธาน
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเผชิญกับความไม่แน่นอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากผลกระทบของไวรัสโค
วิด-19 ที่แพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง
  • ข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนพ.ย.จาก ADP,
ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จาก
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.
ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ดุลการค้าเดือนต.ค. และตัวเลขจ้างงานนอก
ภาคเกษตรเดือนพ.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ