(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 30.20/25 แนวโน้มแข็งค่า ขานรับข่าววัคซีนโควิด ให้กรอบ 30.15-30.30

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday December 3, 2020 11:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.20/25 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก น้อยจากเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.23 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทวันนี้ยังมีทิศทางแข็งค่าได้ต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดรับข่าวดีหลังจากงบเยียวยาแก้ปัญหาโควิดของสหรัฐมีความชัดเจน มากขึ้น ประกอบกับข่าวที่อังกฤษเป็นประเทศแรกที่อนุมัติการใช้วัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า

"บาทคงยังมีแนวโน้มแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ เช่นเดียวกับเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ตลาดมองว่าสถานการณ์โควิดน่าจะเริ่มดี ขึ้นได้ หลังจากที่อังกฤษประกาศอนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิดได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า flow เริ่มออกจาก safe haven คนเริ่มถือดอลลาร์น้อย ลง" นักบริหารเงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 30.15-30.30 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 30.21500 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 104.35/65 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 104.58 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2095 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2055 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 30.226 บาท/ดอลลาร์
  • แบงก์กรุงเทพจับมือ "ฮั่วเซ่งเฮง" เปิดเทรดทองออนไลน์ด้วยสกุลเงินดอลลาร์ ปิดความเสี่ยงอัตรา แลกเปลี่ยน ขยาย
ฐานลูกค้าเปิดบัญชีเอฟซีดี คาดกระตุ้นลูกค้าซื้อขายทองคึกคัก
  • "ททท." ลุ้นวัคซีนโควิด-19 สำเร็จ หนุนท่องเที่ยวระหว่างประเทศฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/2564 ก่อนกลับมาผงาดในปี
2565 คาดต่างชาติแห่เข้าไทย 20 ล้านคน ด้าน "จุรินทร์" เผยแผนผลักดันการส่งออกปี 64 เตรียมอัดกิจกรรมทำตลาด 343 กิจกรรม
กระตุ้น
  • รมว.คลัง ปาฐกถาพิเศษ "Thailand 2021 New game New normal" ว่า คาดว่าประเทศไทยจะใช้เวลา 4 ปีหรือ
ภายในปี 67 ที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะฟื้นกลับมาเท่าเดิมที่ 40 ล้านคน/ปี โดยประเมินว่าปีหน้าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
ราว 8 ล้านคน จากนั้นในช่วงปี 65-66 จะทยอยเพิ่มเป็น 16 ล้านคน และ 32 ล้านคนตามลำดับ
  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3
สถาบัน (กกร.) ว่า กกร. เห็นตรงกันว่า ต้องการให้รัฐบาลขยายมาตรการคนละครึ่ง, เราเที่ยวด้วยกัน และช้อปดีมีคืน ต่อไปอีก 3-6
เดือน หรือสิ้นสุดกลางปี 64 เนื่องจากเป็นมาตรการกระตุ้นการบริโภคที่ส่งผลให้เศรษฐกิจหมุนเวียน ช่วยให้รัฐจัดเก็บรายได้จากภาษีมูลค่า
เพิ่ม (แวต) สูง รวมทั้งกระจายรายได้ร้านค้ารายย่อยที่เห็นผลได้จริง
  • นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาโควิด-19 ปฏิวัติเศรษฐกิจโลก
พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลจะพยายามทุกวิถีทางประคับประคองเศรษฐกิจไทยในปี 64 แม้ว่าอยู่ในทิศ
ทางที่ฟื้นตัวดีขึ้น แต่ยังมีสิ่งที่ท้าทายเพราะเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นเร็วมาก จนกว่าวัคซีนป้องกันโรคจะสามารถนำมาใช้ได้จริงก็คงเป็นช่วงไตร
มาสที่ 2-3 ปีหน้า โดยตอนนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานเศรษฐกิจตั้งเป้าหมายเตรียมเอาไว้ คือ ต้องกลับมาฟื้นตัวใน 12-18 เดือน เป็น
อย่างน้อย
  • ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น
เพียง 307,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 475,000
ตำแหน่ง
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.)
หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐขยายตัวน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลข้อมูลแรง
งานที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.
ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะ
เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาประชาชนและภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้
การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำ
  • นักลงทุนจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐ โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และผู้นำเสียงข้าง
น้อยในวุฒิสภา ต่างก็ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา เร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 9.08 แสนล้าน
ดอลลาร์ ตามข้อเสนอของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เพื่อส่งความช่วยเหลือให้กับชาวอเมริกันได้ก่อนสิ้นปีนี้
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัด

ซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนพ.ย.จากมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM),

ดุลการค้าเดือนต.ค. และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ